[Article] ชี้แจงข้อเท็จจริงที่พาดพิงโซนยอชิแด [ภาคแรก]

เนื่องจากมีกระแสต่อต้าน SM Entertainmant รวมถึงต่อต้านสาวๆ โซนยอชิแด (Girls’ Generation, SNSD) กันมานาน จนถึงบัดนี้ที่อัลบั้มใหม่ของสาวๆ ใกล้จะวางแผง ก็มีกระแสติเตียนมากมายโดยเฉพาะจากกลุ่มแฟนคลับของ ซุปเปอร์จูเนียร์ (Super Junior) หรือที่เรียกตัวเองว่า เอลฟ์ (E.L.F.) ในสังคมออนไลน์หลายประเภท จึงขออธิบาย และให้ความเห็นแด่ผู้มีสติสัมปชัญญะ ดังนี้

1. บทความ การโต้เถียงเรื่องความไม่ยุติธรรมในการดูแลศิลปินอย่างซุปเปอร์จูเนียร์ (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับโซนยอชิแด)


บทความภาษาไทยจาก kyufucksmin ซึ่งแปลจาก บทความแปลอังกฤษ netizenbuzz ที่แปลจาก บทความภาษาเกาหลี 이수만이 생각하는 슈주 +소시앨범 슈주 앨범의 차이 เขียนโดยเอลฟ์เกาหลี

ทำการแปลเป็นภาษาไทยจากบทความแปลภาษาอังกฤษเอง (ข้อความใน quote) โดย DEFSICislove และให้ความเห็น (ข้อความสีดำ) โดย processic

การโต้เถียงเรื่องความไม่ยุติธรรมในการดูแลศิลปินอย่างซุปเปอร์จูเนียร์ (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับโซนยอชิแด) จัดเป็นประเด็นร้อนอยู่ในบอร์ดเกาหลีขณะนี้ โดยใจความสำคัญใหญ่ๆ สามารถสรุปเป็นข้อๆได้ดังนี้

1. เริ่มที่ทัศนคติของอีซูมานที่มีต่อซุปเปอร์จูเนียร์

(ข้อความนี้ถอดมาจากการสัมภาษณ์อีซูมานโดยตรง)
“그는 ㅂㅇ 가 일본 진출에 성공한 이후 아시아뿐만 아니라 세계에서 통할 수 있는 최고의 팀을 구상했다. 그러나 자원의 한계 때문에 선택과 집중이 필요했다. 그래서 여러 팀에서 최고를 한 사람씩 뽑아서 메이저리그라고 할 수 있는 단 한 팀을 구성했고, 그것이 ㄷㅂㅅㄱ였다. “여기에 선발되지 않은 팀은 모두 와해될 판이었습니다. 하지만 계약을 했기 때문에 책임져야 했지요. 그래서 그런 팀 중에서 음악도 잘하고 버라이어티쇼도 할 수 있는 팀으로 키운 게 슈퍼주니어였어요. 그들은 살아남기 위해 피눈물나는 노력을 기울였고, 저희도 미안해서 도와주게 됐지요.”
“อีซูมาน ประสบความสำเร็จในการผลักดันศิลปินในค่ายอย่าง BoA ก้าวไปสู่ตลาดเพลงญี่ปุ่น และเริ่มวางแผนที่จะฟอร์มทีมที่จะสามารถยึดตลาดไปได้ทั่วโลก ไม่เฉพาะแค่ในเอเชียอีกต่อไปแล้ว และเพราะข้อจำกัดหลายๆด้าน เขาจึงจำเป็นต้องเลือกอย่างรอบคอบที่สุด จากทีมที่ฟอร์มอยู่ในค่ายหลายๆทีม เขาได้เลือกสมาชิกหนึ่งคนมาจากแต่ละทีม เพื่อรวมตัวกันเป็น “ทีมหลัก” ซึ่งทีมนั้นก็คือทงบังชินกินั่นเอง…เขาพูดถึงเรื่องนี้ว่า ‘สมาชิกที่ไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในทีมหลัก อาจจะต้องแยกตัวไป แต่เนื่องจากสัญญาที่พวกเขาทำกับทางบริษัท เราจึงรับผิดชอบในเรื่องนี้ โดยการฟอร์มทีมซุปเปอร์จูเนียร์ขึ้นมา และผลักดันพวกเขาให้ก้าวเข้าสู่วงการเพลงและรายการวาไรตี้โชว์ต่างๆ และเพื่อที่จะอยู่รอดในวงการนี้ พวกเขาต้องฝ่าฟันด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตามามากเหลือเกิน ซึ่งทางเราก็รู้สึกเสียใจและพยายามที่จะช่วยสนับสนุนพวกเขา”
Source: biz.chosun.com
นี่ทำให้ฉันคิดว่า มันเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดี ว่าพวกเขาไม่เคยแคร์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราบ้าง และก็ให้การสนับสนุนแต่กลุ่มที่ไม่ได้น่าเห็นใจนั่น ถึง SM…มันไม่ได้อยู่ที่ว่าซุปเปอร์จูเนียร์จะทำได้ดีหรือไม่หรอกนะ ฉันยังรู้สึกแย่แทนพวกพี่ชายอยู่ดี เพราะพวกเขาไม่มีใครให้เชื่อใจอีกแล้วนอกจากแฟนๆอย่างพวกเรา มีแค่แฟนๆอย่างเราที่คอยโปรโมทอัลบั้มให้พวกเขาอยู่ตลอดเลย

จะเห็นได้ว่า อีซูมาน กล่าวชัดอยู่แล้วว่า ซุปเปอร์จูเนียร์ เป็นทีมที่เกิดจากการรวมคนที่ไม่ได้รับคัดเลือกเป็นทงบังชินกิ แต่ค่ายผลักดันให้เข้าสู่วงการบันเทิง ไม่ได้ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ
ไม่ใช่เรื่องที่สามารถตีความว่าแคร์หรือไม่ ในบทความก็ไม่ได้บอกถึงการไม่ช่วยเหลือ หรือไม่ดูแลแต่อย่างใด ซึ่งในความจริงค่ายก็ออกอัลบั้มให้ ซุปเปอร์จูเนียร์ รวมถึงป้อนงานโฆษณา, พิธีกร, ดีเจ, ละคร และอื่นๆ

2. SM เปลี่ยนทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวของซุปเปอร์จูเนียร์ เป็นคอนเสิร์ตรวมศิลปิน SM

ทางยุโรปได้ส่งข้อเสนอมากมายเพื่อที่จะจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวของซุปเปอร์จูเนียร์ และในขณะที่อยู่ในระหว่างการเตรียมงาน จู่ๆ SM ก็เปลี่ยนเป็นคอนเสิร์ต SM
ที่เปรูก็โหวตให้ซุปเปอร์จูเนียร์เป็นศิลปินที่พวกเขาอยากชมการแสดงมากที่สุด ไม่ใช่ศิลปิน SM ทั้งหมด แต่พวกเขาต้องการดูเฉพาะซุปเปอร์จูเนียร์ และกำลังไฟท์เพื่อให้ได้จัดคอนเสิร์ตซุปเปอร์จูเนียร์อยู่ในตอนนี้

ในเว็บไม่มีการอ้างหลักฐานใดๆ และตามปกติแล้วการโหวตไม่ใช่ตัวชี้วัดที่มีน้ำหนัก
เท่าที่ทราบคือ Korean Connection ต้องการจัดคอนเสิร์ต K-POP ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส (K-Pop Live in Paris) ซึ่งได้ประกาศออกมาว่าจะมีศิลปินหลายกลุ่มเข้าร่วม ในวันที่ 10 มิถุนายน 2554 (ที่มา: paelladekimchi)
จากนั้นก็กลายเป็นคอนเสิร์ตจาก SM Entertainment คือ SM Town à Paris, Zénith โดยจัดขึ้นในวันที่ 10 และเพิ่มรอบวันที่ 11 มิถุนายน อีกหนึ่งรอบ (ที่มา: koreanconnection)

3. คุณภาพของอัลบั้ม

อัลบั้มของโซนยอชิแดทำจากเหล็ก แปลว่าต้องลงทุนไปอีกมากเลยใช่มั้ย แล้วของพวกเราล่ะ ตั้งแต่อัลบั้มที่สองเป็นต้นมา พวกเราไม่เห็นได้อะไรนอกจากอัลบั้มกระดาษห่วยๆ
แถมยังไม่พอ ฉันได้ยินว่าไอ้กล่องอัลบั้มเหล็กของโซนยอชิแด ราคาแค่ 19 เหรียญ ในขณะที่กล่องกระดาษของพวกเราราคาตั้ง 20 เหรียญ ที่เกาหลีกระดาษมันแพงมากนักหรือไง
SM ไม่เคยทุ่มเทอะไรให้พวกเราเลย ตอนแรกพวกเราก็ช็อคและผิดหวัง แต่ตอนนี้ก็ชินแล้วล่ะ

ในบทความภาษาอังกฤษระบุว่าอัลบั้มใหม่ของโซนยอชิแดเป็นกล่องเหล็ก (ใช้คำว่า iron) แต่จริงๆ อัลบั้มใหม่นั้นเป็นกล่องดีบุก (tin)
เปรียบเทียบอัลบั้ม 슈퍼주니어 – 5집 [Mr.Simple] Album Size: 300 * 300 (mm) กับ 소녀시대 – 3집 [The Boys] Album Size: 148 (mm) * 165 (mm) จะเห็นได้ว่าแม้ของ ซุปเปอร์จูเนียร์จะเป็นอัลบั้มกระดาษ แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่ามาก

อัลบั้ม Mr. Simple
ภาพเดี่ยวที่บรรจุภายในอัลบั้ม Mr.Simple
อัลบั้ม The Boys ใช้กล่องดีบุก

และอัลบั้มก่อนหน้านี้ของโซนยอชิแด ก็ไม่ได้มีความพิเศษแต่อย่างใด ดังตัวอย่าง อัลบั้ม Oh! ที่มีขนาด 148 * 208 (mm) และอัลบั้ม Hoot ก็เป็นอัลบั้มกระดาษ ส่วนอัลบั้ม Run Devil Run ก็เป็นอัลบั้มกล่อง DVD ธรรมดา

อัลบั้ม Oh! และ Hoot
อัลบั้ม Run Devil Run

4. SM พยายามเลื่อนเวลาคอนเสิร์ตซุปเปอร์จูเนียร์ออกไป

ในหัวข้อนี้ ไม่มีการให้เหตุผล หรืออ้างหลักฐานใดๆ

5.SM มักใช้ฉากรียูสซ้ำๆ ซากๆ เวลาถ่ายทำ MV หรือ Teaser ของซุปเปอร์จูเนียร์เสมอ

ไม่ใช่เพียงซุปเปอร์จูเนียร์เท่านั้นที่มีการใช้ฉากซ้ำไปซ้ำมา จะเห็นได้ว่าศิลปินของ SM ก็มักจะได้ถ่ายมิวสิควิดีโอในสตูดิโอ ที่มีฉากไม่กี่ฉากสลับกัน (ดูได้ที่ YouTube SMTOWN OFFICIAL) อีกทั้งกรณีของโซนยอชิแดล่าสุด มีการออกทีเซอร์มาถึง 4 ตัว (ทีเซอร์อิมเมจ 2 ตัว, ทีเซอร์ 15 วินาที และ ทีเซอร์ 30 วินาที) ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเพราะแต่ละตัวก็มีรายละเอียดคล้ายกัน และมีการใช้ฉากเดียวกับชายนี่ด้วย ซึ่งในจุดนี้สามารถมองว่าบริษัทต้องการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด

SHINee - Lucifer
Girls' Generation - The Boys

และล่าสุดมิวสิควิดีโอที่ SM ทุ่มทุนสร้างที่สุด ก็ไม่ใช่ของโซนยอชิแด แต่น่าจะเป็นของทงบังชินกิ

6. SM มักจะตัดชื่อซุปเปอร์จูเนียร์ทิ้ง และใช้คำว่า “และวงอื่นๆ” แทนเสมอเมื่อกล่าวถึงศิลปินในบริษัท

เช่น “ตั้งแต่ H.O.T. ศิลปินภายใต้สังกัด SM อย่าง BoA, TVXQ, SNSD และวงอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ”
อีซูมานก็พูดเหมือนกันว่า “ทงบังชินกิเป็นกลุ่มที่ฟอร์มจากสมาชิกที่ดีที่สุดจากทีมทั้งหมดสามทีม ซุปเปอร์จูเนียร์เป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยสมาชิกส่วนที่เหลือ เพราะฉะนั้น ทั้งสองกลุ่มจะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมากในด้านความสามารถ พวกเขาถึงต้องกัดฟันทำงานเพื่อที่จะได้เป็นไอดอลที่สุดยอดของโลก ซึ่งนั่นเป็นผลลัพธ์ที่ผมไม่ได้คาดหวังมาก่อน”

สำหรับข้อนี้คือ การไม่บอกชื่อวงซุปเปอร์จูเนียร์ลงในศิลปินเมื่อพูดถึงศิลปินในบริษัท SM ซึ่งในเว็บเกาหลีอ้างหลักฐาน 1 ชิ้นจากนิตยสารเล่มหนึ่ง แต่หากค้นหาข่าวจาก SM โดยตรง (SMTOWN on facebook) แล้วพบว่ามีชื่อวงซุปเปอร์จูเนียร์ (Super Junior) อยู่ในการอ้างถึงศิลปินของ SM ทุกครั้ง เช่น

SHINee! First Ever Asian Artist to Hold a LIVE Stage in ‘Abbey Road Studios (Shrine of Beatles)’ to Celebrate the Debut in Japan
Vivid Scenes of SMTOWN Live in Tokyo will be Released Through Facebook Worldwide!

7. สิ่งที่ฮีชอลพูด

“내가 가끔그러거든요.그 회사분들이랑 얘기할떄 아니우리뭐 대만에서 38주 1위하고 뭐 미인아도 지금뭐 18주짼지 몇주짼지 1위래요 이런거#%@#^* 왜 우린왜 기사 많이 안나와요. 따른데 처럼 막 플레이하고 우리도 빵빵해야지 우린 아무것도 안하는줄 알잖아요.그렇게 얘기하면은 회사에서 어떻게 하면 되게 고마운 말이에요. 아이.. 우리는 슈퍼주니어가 그정도하는거는 어느정도 되게 당연하다고 생각하기 떄문에 고런걸로 괜히 호들갑 떨필요 없다고 생각한다. 그래가지고 제가 그러거든요.
YO말만잘해 욕쉬~”
ฮีชอล “บางครั้งผมก็พูดถึงเรื่องที่พวกเราขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งในไต้หวันถึง 38 สัปดาห์ แล้วยังเรื่องที่โบนามานาอยู่อันดับหนึ่งถึง 18 สัปดาห์ กับพวกคนที่บริษัท และถามพวกเขาว่า ทำไมถึงไม่เขียนข่าวพวกนี้ของพวกเราบ้างล่ะ ผมขอให้พวกเขาลงพาดหัวข่าวเหมือนที่บริษัทอื่นเขาทำบ้างสักนิดก็ยังดี ผู้คนจะได้เลิกคิดว่าพวกเราไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซะที พอผทพูดแบบนี้…พวกเขาก็มักจะตอบมาว่า “เราคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ซุปเปอร์จูเนียร์จะต้องทำได้อยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องทำอะไรให้มันเป็นเรื่องใหญ่นี่”

ถ้าฮีชอลพูดแบบนี้จริง แสดงว่าเขาไม่ได้ติดตามข่าวจริงจัง เพราะข่าวซุปเปอร์จูเนียร์ในเกาหลี หรือแม้แต่ที่ SM แปลลงมาใน SMTOWN on facebook มีข่าวของซุปเปอร์จูเนียร์ ทั้งเพลงขึ้นชาร์ต, ยอดขายอัลบั้ม หรือแม้แต่ยอดชมบน YouTube มากมาย เช่น

นอกจากนี้ SM ยังเขียนเยินยอให้ซุปเปอร์จูเนียร์ด้วยฉายามากมาย เช่น Asia No.1 Boy-Group, The king of Korean Wave, The King of global Korean Wave, Album King (음반킹)

*ขอเขียนเพิ่มตรงนี้ หากมีใครพบเห็นกรุณาอ่านอีกครั้งนะคะ
สำหรับหัวข้อของฮีชอล ในเว็บที่มาภาษาเกาหลี หรือที่แปลอังกฤษ ไม่ได้เขียนช่วงเวลา หรือแสดงหลักฐานว่าฮีชอลพูดเมื่อใด ฉะนั้นเราจึงตีความว่า คนเกาหลีนำเรื่องนี้มาโพสเมื่อวันที่ 15 ต.ค. แสดงว่าเรื่องนี้มันยังเป็นประเด็นอยู่ เราจึงลองค้นหาข่าวจาก SM ดูว่ามันจริงหรือไม่ หากผู้ใดมีช่วงเวลาที่สามารถคัดค้านได้แน่นอนโปรดแจ้งนะคะ
ส่วนประโยคคำว่า “ถ้าฮีชอลพูดจริง” เราไม่ได้จะสื่อถึงว่าฮีชอบจะโกหก แต่บทความได้รับการแปลจากเกาหลีสู่อังกฤษ และอังกฤาสู่ไทย เรากลัวว่าอาจจะมีการคลาดเคลื่อน ฉะนั้นจึงเขียนเอาไว้เพื่อให้เข้าใจว่า เราเข้าใจตามประโยคที่แปลมานะคะ

———————————

สำหรับบทความข้างต้น จะเห็นได้ว่ามีเอลฟ์บางส่วนไม่พอใจ SM Entertainment และเปรียบเทียบกับโซนยอชิแด แม้ว่าบทความนี้จะไม่ได้ด่าทอโซนยอชิแดเท่าไหร่นัก และไม่หยาบคาย แต่จุดประสงค์ในการเขียนชี้แจงในวันนี้คือแสดงให้เห็นว่าหลายส่วนแตกต่างไปจากความเป็นจริง SM ไม่ได้เลือกปฏิบัติ หรือลำเอียง
แม้ว่าอาจจะมีบางส่วนที่ทำให้ศิลปินบางกลุ่มดีกว่ากลุ่มอื่น แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลทั้ง 7 ข้อที่ยกมา เพราะ SM ก็เป็นบริษัทที่แสวงหาผลกำไร และดำเนินธุรกิจ
ขอให้ทุกท่านที่ตัดสินใจอ่านบทความนี้ อ่านด้วยสติให้จบ ใช้สมองของท่านพิจารณาในสิ่งที่นำเสนอไป หากมีข้อสงสัยหรือชี้แนะ สามารถสอบถามได้ วันนี้ขอจบแค่บทความนี้ก่อน

231 thoughts on “[Article] ชี้แจงข้อเท็จจริงที่พาดพิงโซนยอชิแด [ภาคแรก]

  1. มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการตั้งแต่ก่อนอ่าน อ่านจบแล้วสติก็ยังคงครบถ้วนดีค่ะ ^^
    หวังใจว่าผู้ที่มีสติอันน้อยนิดก่อนอ่าน หากมีโอกาสได้มาอ่านแล้วจะคงความมีสตินั้นไว้ได้บ้างไม่มากก็น้อย : )

  2. ก็ถ้าพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และไม่คิดเปรียบเทียบชีวิตก็จะมีความสุขขึ้น

    1. ใช่คะ เมื่อเทียบกับคนอื่นเราก็จะมีข้อด้วยมากยิ่งขึ้น

  3. ขอบคุณที่ช่วยเรียบเรียงคำพูดแทนโซวอนส่วนใหญ่

    1. แรงไปนะค่ะ คุณเองก็ควรใช้สมองก่อนพิมพ์เช่นกัน
      ความคิดคนเราเหมือนกันไปหมดคนไม่ได้หรอกค่ะ
      เพราะฉะนั้นไม่มีความคิดไหนที่ถูกที่สุด หรือผิดที่สุดแน่นอน

      ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างรู้สึก

    2. เพราะมีคนแบบคุณอยู่หรือเปล่าคะ ?? … เขาเลยต้องมาดราม่ากันอ่ะ ?? เวลาจะคอมเม้นอะไร ใช้คำพูดให้มันดูดีกว่านี้หน่อย เหมือยที่คนมีสติส่วนใหญ่เขาใช้กัน จะดีมากเลยนะคะ

    3. ในเพจนี้เค้าก็ให้ใช้สมองในการอ่านและการคอมเม้นท์เช่นกันนะคะ

  4. ทุกสิ่งเป็นเพียงแค่การตีความจากเหตุผลส่วนบุคคลของแต่ละคน เพราะฉะนั้นเอล์ฟหรือแฟนคลับ SJ จะเข้าใจอย่างไรมันก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของพวกเขาเช่นกัน คุณเข้าใจเช่นนี้ มีการยกเหตุผลมาอ้างอิงตามที่คุณพอจะเซิร์ธหาจากกูเกิ้ลได้ แต่แฟนคลับ SJ ก็มีเหตุผลที่ของเขาที่จะเขียนตามสิ่งที่เขารู้สึกและได้รับการปฏิบัติเช่นนั้นมานานถึงหกปีแล้ว ข่าวที่คุณเซิร์ธนั้นให้สังเกตดูสักหน่อยว่าเป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้ แทบจะเป็นข่าวที่เกิดขึ้นหลังจากการ SM Town ที่ปารีสเสียด้วยซ้ำ ก่อนหน้านี้ล่ะ?

    หกปีของ Super Junior กับสิ่งที่พวกเขาทำให้กับบริษัทแต่กลับได้รับการยอมรับแค่…

    คิดดูเอาเองล่ะกัน คุณเขียนในฐานะแฟนคลับใครเราไม่รู้ แต่เราพูดในฐานะคนที่ติดตาม Super Junior มานานห้าเกือบหกปี

    แล้วก็อย่าคิดว่าคนอื่นเค้าเอาแต่อารมณ์ อย่าคิดว่าคนอื่นเพียงแค่พูดไปโดยขาดวิจารณญาณ อย่าดูถูกความคิดคนอื่นเพียงแค่เค้าคิดเห็นแตกต่างจากคุณ

    ถ้าสิ่งที่ได้รับเพียงพอต่อความพยายามทั้งหมดทั้งมวลของคนที่เรารักไม่มีใครหรอกจะมาเสียเวลานั่งดราม่าหรือเครียดกับเรื่องพวกนี้

    1. ตอบคุณ Ayane ที่เราค้นหาหลักฐานที่ค่อนข้างใหม่มาเนื่องจาก แต่ข้อที่บทความที่เอลฟ์เกาหลีเขียน แล้วเว็บอังกฤษแปลมา หลายปัญหาค่อนข้างเป็นเวลาที่ใหม่ เช่น เรื่องอัลบั้ม, SMTOWN, ข่าวชาร์ต เป็นต้น

      คุณบอกว่าคุณเชื่อในฐานะคนติดตาม แต่คุณ หรือแม้กระทั่งบทความเกาหลีก็ยังแสดงหลักฐานเพียงน้อยนิด มันก็ยากที่จะทำให้คนทั่วไปเชื่อค่ะ

      1. ต่อให้หาหลักฐานมาเยอะแค่ไหน เราก็เรียกร้องความยุติธรรมอะไรให้กับเอสเจและตัวพวกเราแฟนคลับเองไม่ได้อยู่ดี เช่นเรื่องรางวัล GDA 2010 หลักฐานมากมายที่เอลฟ์หามาเพื่อขอเหตุผลจากทางผู้ใหญ่ สำหรับความไม่เป็นธรรม แต่สุดท้ายมันก็ถูกทำให้เงียบไป เหมือนมันเป็นเรื่องไม่สำคัญสำหรับพวกเขาเลย

      2. ความจริงหลักฐานคุณปีที่แล้วนี่มีข้อแย้งหมดนะคะ

      3. หลักฐาน งาน GDA 2010 ที่เอลฟ์ยกมานั่นหรอค่ะมีข้อขัดแย้งทั้งหมดแล้ว = =^
        จากไหนหรอ เรายังไม่เห็น??
        แล้วเราก็ยังไม่เข้าใจเลยว่า รางวัลอินกิซังทำไมวงที่ได้รางวัลคือ
        คนที่ได้คะแนนโหวตมากที่สุดอันดับ 1 กับ 3 หรือมันเป็นกติกาใหม่?
        ที่เว้นที่สองเอาไว้เพื่อ…ข้อขัดแย่งของอันนี้คืออะไร??

      4. ก็ได้ asia popularity award ไปแล้วนี่คะ
        ถ้าถามว่าทำไมไม่มีกติกาบอก
        มันก็เหมือนกับ best rookie ที่ถ้าได้บนซังก็จะไม่ได้รางวัลนี้ มีกติกาอันนี้บอกไหม?
        เค้าจะให้รางวัลที่ใหญ่กว่าในหมวดเดียวกันนะคะ

      5. อ่อ ข้อขัดแย้งที่ออกมาอันนั้น..

        จริงๆมันเป็นข้อขัดแย้งที่ค่อนข้างจะแถเพื่อหาทางออกมากกว่า
        เพราะข้อขัดแย้งของแดซังอันที่คุณยกมา คือเอสเจได้รางวัลแดซังของปีที่แล้วไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์ได้ 2 ปีซ้อน ใช่ป่ะ??

        แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริง จะเอาชื่อเอสเจเข้าไปชิงด้วยทำไม?

        อินกิซังก็อยู่ในส่วนของอินกิซัง ใช้เงินโหวต เสียเงินโหวต
        เอาไปรวมกับรางวัล asia popularity award ซึ่งอันนี้กดโหวต
        เพื่ออะไร?? แบบนี้ก็เหมือนหลอกให้คนเสียเงินโหวตฟรีๆ = =^

      6. ข้อโต้แย้งอันนั้นฝ่ายคุณเขียนขึ้นมาเองไม่ใช่เหรอคะ -_- มีแต่ต้นฉบับภาษาจีนอีก..
        ศิลปินได้ติดกันสองปีได้ มีคนเคยได้มาแล้วด้วย
        เราไม่รู้นะเรื่องเสียเงินอะไรเนี่ย แต่อินกิแปลว่า popular แล้ว asia popular award นี่ก็ popular หมวดเดียวกันไม่ใช่หรือ? ที่สำคัญเกาหลีไม่ได้อยู่ในเอเชียงั้นเหรอ? จะคิดให้มันเป็นรางวัลทิ่ใหญ่กว่าก็ถูกแล้วนี่คะ -.-

    2. asia popularity award อันนี้กดโหวต ใครๆก็ร่วมกันกดโหวตได้
      ส่วนอินกิซังที่มีปัญหา คนเกาหลีโหวตเท่านั้น ครั้งละ 500 วอน

      ถ้าจำไม่ผิดปี 2009 เอสเจก็ได้ทั้งสองรางวัล = =^

      ….

      ต่างคนต่างความคิด ต่างความรู้สึก
      คนได้ประโยชน์ก็คงมีความรู้สึกไม่เหมือนกันอยู่แล้ว = =^

      1. งั้นคงจำผิดแล้วค่ะ เพราะ asia มีปีที่แล้วปีแรก
        ถ้คิดว่าามันไม่ยุติธรรมเกี่ยวข้องกับเงินเนี่ย ทำไมไม่ฟ้องศาลคะ
        บอกจะฟ้องไม่ใช่เหรอ?
        เกือบปีผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

      2. เรียกร้องไป แต่รางวัลมันก็ไปอยู่ในมือคนที่เขาเสียเงินโหวตไปแค่ 15 % แล้ว ในเมื่อเขากล้าขึ้นไปรับรางวัล…ฟ้องไปก็คงเท่านั้น

        ต่างคนต่างความคิด ต่างความรู้สึก
        คนได้ประโยชน์ก็คงมีความรู้สึกไม่เหมือนกันอยู่แล้ว = =^

      3. -.-
        แหม่
        เราว่าถ้าศาลเค้ารับฟ้อง(คำกล่าวหามีน้ำหนักพอ)
        แล้วพวกคุณ ๆ ไม่กลัวกระแสสังคมที่จะมาลงที่คนที่คุณรักและตัวคุณเอง ก็คงฟ้องไปแล้วล่ะค่ะ..
        ไม่อยากฟ้องหรือฟ้องไม่ได้กันคะ???

      4. เป็นคนได้ประโยชน์จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะค่ะ ส่วนกระแสสังคมส่วนใหญ่เค้าก็สงสัยการตัดสินกันทั้งนั้น มีแต่คนได้ประโยชน์จากงานนั้นเท่านั้นแหละค่ะที่ไม่มีข้อสงสัยอะไร??

      5. ถ้ากระแสสังคมสงสัย.. ทำไมไม่มีข่าวออกมาเลยล่ะคะ
        อย่าบอกว่า SM ยัดเงิน เพราะถึงจะใหญ่สุดในด้านการบันเทิง แต่ก็สู้บริษัทใหญ่ ๆ ไม่ได้ คงไม่สามารถไปยัดนักข่าวอิสระ หรือบล็อกเกอร์ต่าง ๆ (ที่ไม่ใช่เอลฟ์) ได้แน่นอน
        แล้วรู้ใช่ไหมคะ ว่างานประกาศรางวัลน่ะ ไม่ได้มีงานเดียว
        ถ้ามันไม่โปร่งใส หรือไม่เป็นที่ยอมรับจริง เค้าไม่ปล่อยงานคู่แข่งไว้หรอกค่ะ -_-

      6. งานประกาศรางวัลในเกาหลี ไม่ได้มีแค่งานเดียวจริงค่ะ
        แต่ว่าแต่ละงานประกาศรางวัล เขาก็คงไม่สนใจกันหรอก
        เพราะแต่ละงานก็ใช่ว่าจะให้รางวัลครอบคลุมทุกค่ายทุกสังกัด
        เหมือนกันหมด

        อย่าง GDA สังเกตุได้เลยว่าจะไม่มี YG และบางค่ายก็ไม่ส่งศิลปินเข้าร่วม
        ของ M-net ปีที่แล้ว SM ก็ไม่ส่งศิลปินเข้าร่วม เพราะงั้นแต่ละงานเขาไม่สนใจผลประกาศของคนอื่นอยู่แล้วค่ะ = =^

        คุณอาจคิดว่า การตัดสินนั้น มันยุติธรรมนั่นก็เรื่องของคุณ
        ประโยชน์มันไปตกอยู่กับฝั่งคุณ ทุกสิ่งอย่าง…

        ต่างคนต่างคิด = =^

      7. อ่านคอมเม้นต์หลายคอมเม้นต์จากหลายๆที่ สรุปได้ว่า พวกมอป.ก็แค่เป็นเด็กขี้อิจฉา เห็นใครเด่นเกินไม่ได้

        ก็เหมือนกับเด็กวัยเรียน ที่มีคนเด่นเกิน มีแต่คนชอบ ก็จะจับกลุ่มนินทา หรืออิจฉาเค้าทันที

        คนจำพวกนี้ โตขึ้นถ้ายังพอมีวาสนาอยู่บ้างก็อาจได้เป็นแม่ มีลูกมีเต้า แต่จะเป็นแม่ที่ไร้คุณภาพมั้ยก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะนิสัยพื้นเพตอนเป็นวัยรุ่นเป็นพวกขี้อิจฉา คิดเล็กคิดน้อย ใจแคบ เห็นแต่คนของตัวเองสำคัญทีสุด รักโอเว่อร์แอคติ้ง อารมณ์รุนแรง

        พวกนี้ถ้าเลี้ยงลูก ก็จะเลี้ยงแบบเทวดา ลูกชั้นดีทีสุด เลิศที่สุด ด้วยความที่คนพวกนี้นิสัยเรื่องเยอะ คิดเยอะ สามีก็อาจจะเบื่อ และพาลไปมีเมียน้อยได้

        แต่หากโชคดี โตขึ้นมาแล้วคิดได้ ว่าความคิดของตัวเองตอนเป็นวัยรุ่นมันช่างไร้สาระสิ้นดี รู้สึกละอายตัวเองบ้าง ก็อาจมีชีวิตที่สงบสุขร่มเย็นขึ้น

        ปีนี้ 2013 แล้ว เมื่อปี 2012 รางวัลก็ตกไปอยู่กับ sj ทั้งที่ถ้าแนวคิดที่พวก มอป มโนขึ้นมาถูกต้องจริงๆ รางวัล 2012 snsd จะต้องชนะไป แต่ก็ไม่เห็นโซวอนคนไหนเรียกร้องหรือประท้วงอะไร ส่วนพวก มอป.ขี้อิจฉาก็เงียบปากสนิทอย่างน่าสมเพช ไหนเป็นเจ้าแห่งยุติธรรมไม่ใช่เหรอ ..คุณมันก็แค่เด็กเมื่อวานซืน คิดอะไรตื้นๆ

        ความคิดที่กลุ่มตัวเองบอกว่าถูกต้อง แต่คนภายนอกเค้ากลับหัวเราะอย่างสมเพช ลองพิจารณาดูแล้วกัน ว่าสิ่งที่ ติ่งมอป. คิด มันถูกต้องจริงหรือ??

  5. พวกมอปกรุณาใช้สติปัญญาอ่านนะ

    ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ

    ก็อ่านใหม่จนกว่าจะเข้าใจดีกว่านะ

  6. ความคิดใครก็ความคิดมัน อันนี้ถือว่าไม่ผิด

    ต่างคนต่างมุมมอง ต่างคนต่างความคิด
    ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวศิลปินและทางต้นสังกัดหรอกค่ะ

    คนทั่วไปไม่เชื่อไม่เป็นไรนี่คะ
    คนที่เขียนก็คงไม่ต้องการอะไรมากมาย นอกจากความเป็นธรรมจากทางต้นสังกัดเท่านั้นเอง

  7. คุณตามแก้เป็นข้อๆตามบทความต้นเรื่อง แน่นอนถ้าไม่พิจารณาให้ดีๆอาจทำให้คล้อยตามได้ง่าย
    ไอ้ตรงประเด็นน่ะมันต้องตรงอยู่แล้วแต่มันจะถูกหรือเปล่าอีกเรื่องนึง ก็อยากให้พิจารณาดีๆแล้วกัน
    เรื่องนี้มันอยู่ที่วิจารณญาณ และข้อมูลที่ติดตามมา ไม่ใช่ไปเจอข้อมูลที่หักล้างมาได้ซักอันแล้วยกมาอ้างว่ามันไม่ใช่แล้วมันจะไม่ใช่ตามนั้น

    เอสเอ็มไม่ได้ทำกับเอสเจไปในแบบเดียวกันทุกครั้ง มีทั้งดีด้วยมีทั้งเลวด้วย แต่ส่วนมากเอลฟ์น่าจะรู้ดีว่าเป็นยังไง

    1. เพิ่มซักนิด คุณพิจารณาไม่ออกจริงๆเหรอว่าโปรดั๊กชั่นของSJกับSNSDต่างกันยังไง
      ไม่ได้หมายถึงสไตล์นะ แต่หมายถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ ทุ่มทุน รายละเอียดต่างๆ ถามจริงเถอะดูไม่ออกจริงๆเหรอ?

      1. เราไม่รู้นะคะว่าเอสเจผ่านอะไรมาบ้าง ไม่ใช่แฟนคลับ
        แต่ว่าการที่พิมพ์บทความนี้ออกมาเพราะเห็นต่างจากบทความจากพวกคุณนี่ไม่รู้ว่าไปเกี่ยวกับเรื่องในอดีตตรงไหน. -_-
        ถ้าโดนพาดพิงแบบผิด ๆ นี่คือไม่มีสิทธิออกจากชี้แจง?

      2. ตอบหน่อยสิ เรารออ่านอยู่ อยากรู้ว่าคุณจะคิดยังไง
        เกี่ยวกับข้อ5 นะอันนี้

        เค้ายกเรื่องฉากมาแค่อยากให้เห็นว่าเป็นส่วนนึงที่บ่งบอกว่ามันไม่แฟร์ แต่ที่เค้าต้องการที่จะสื่อคือเรื่องโปรดั๊กชั่นนั่นแหละ

      3. ตอบ miochan

        ดูข้อ6 คิดสิ ที่บอกว่ามันไม่เหมือนกันทุกครั้งหมายถึงมันมีทั้งที่ใช่และไม่ใช่ไง ไม่ใช่ไปเห็นมาว่ากล่าวถึงว่าให้เกียรติแค่ตรงนั้นแล้วมาเหมาว่าที่คนเขียนทีแรกบอกมามันไม่ใช่
        ก็เลยบอกว่ามันปฏิบัติต่อเอสเจไม่เหมือนกันทุกครั้งไง คนที่บอกว่าไม่แฟร์เค้าก็พูดถูกของเค้า เราก็ดูก็ติดตามเอสเจมาในเรื่องนี้เราเห็นชัดเจน
        แล้วที่่พูดถึงน่ะ มันก็ทั้งเรื่องอดีตและเรื่องในบทความนี้

        โดนพาดพิงมีสิทธิ์แก้ต่างได้ แต่จะหักล้างคนอื่นคนอื่นก็มีสิทธิ์บอกตามวิจารณญาณและขอมูลของเค้าตอบคุณกลับเหมือนกันนะคุณ

      4. ไหนละคะข้อมูล
        ไหนล่ะคะหลักฐาน ที่พิมพ์ ๆ มาเห็นมีแต่ความเห็นคุณอย่างเดียว

      5. ตอบ miochan

        ข่าวเอสเอ็มที่ปารีสไม่มีชื่อซุปเปอร์จูเนียร์ในพาดหัวข่าว เห็นได้ชัดๆเลยในรายการcome to play sm town special

        ของอย่างนี้มันสะเทือนอารมณ์มันจำได้ดี คุณว่างเชิญคุณลองตามดูคลิปพิสูจน์ได้

        เอ๊ะ แล้วเรื่องที่ถามทำไมไม่ตอบซักที?

      6. ค่ะ ขอตอบเรื่อง ไม่มีชื่อ sj อยู่ในพาดหัวข่าวนะค่ะ
        เราเจอตัวลิ้งหน้าข่าวแล้วค่ะ
        http://article.joinsmsn.com/news/article/article.asp?total_id=5435882&cloc=olink|article|default
        ซึ่งถ้าคงจะไปเทียบกับที่มีชื่อไม่ได้แต่หวยดันลงมาลงที่ตัวนี้ เพราะเค้าเลือกข่าวนี้มา SM คงจะบอกข่าวออกไป แต่อยู่ที่นักข่าวเค้าจะเอามาเขียนยังไง กับ ทางรายการเค้าจะเลือกข่าวไหน มาลง ซึ่งอย่างที่บอก มันไปแจ๊กพ๊อตไปลงตรงข่าวที่ไม่มี เอสเจ ขึ้นพาดหัวมากกว่านะค่ะ

      7. ก็เป็นอย่างที่เค้าบอกว่าไม่แฟร์ใช่มั้ยล่ะ เอสเอ็มทำอย่างนั้น

        ที่จำได้คอนเอสเอ็มที่ญี่ปุ่นมีอยู่ข่าวนึงก็ไม่ได้กล่าวถึงเอสเจเหมือนกัน แต่อันนี้หลักฐานหามาคงจะยาก ลืมไปแล้ว แต่ฝังอยู่ในความทรงจำ

        โอเค ที่เราถามเรื่องโปรดั๊กชั่่นไปถ้าลำบากใจที่จะตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้ ไม่ได้อยู่รอฟังแล้วล่ะ

      8. คือเราต้องการจะบอกว่า SM เป็นคนบอกข่าวก็จริงแต่ว่า SM ไม่ได้เป็นคนเขียนไงค่ะ สำนักข่าวมันมีตั้งหลายสำนัก(ออนไลน์) มันเขียนไม่เหมือนกันอยู่แล้วอะค่ะ แล้วสำนักข่าวนี้ดันไม่เขียน แล้วรายการไปเลือกที่ไม่เขียนมาใช้ เราเลยบอกว่าแจ๊กพอตไงค่ะ = =

      9. ไปรู้ได้ยังไงว่าเอสเอ็มบอกไม่บอกอย่างนั้น เอสเอ็มเป็นคนบอกข่าว
        ข่าวเอาตามคำบอกของเอสเอ็ม เก็ทมั้ย?

        สื่อในเกาหลีช่วงนั้นที่เป็นสื่ออืสระไม่ขึ้นตรงเสนอข่าวตามเอสเอ็มบอก
        เค้ายกย่องเอสเจเอิกกะเหลิกว่าแค่สิบคนทำให้คนอีกหลายล้านทางแถบนั้นรู้จักประเทศเกาหลี

        แล้วข่าวที่ขึ้นตรงจากเอสเอ็มดันไม่กล่าวแม้กระทั่งชื่อวงSuper Junior มันน่าคิดมั้ย
        ว่าสื่อสำนักนี้อาจจะซื่อได้ถูกบอกมายังไงก็เขียนไปตามนั้นไม่อยากเปลี่ยนแปลงเอาตามแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลมาซึ่งคือเอสเอ็ม

      10. ดูชื่อ และรูปแบบรายการสิคะ ว่าเค้าทำงานกันยังไง
        ข่าวโปรโมทไม่ใช่บริษัทจัดให้แล้วมันจะใครจัดให้ล่ะคะ

        ส่วนข่าวอิสระที่เค้าจะยกย่องใครนั้นคงไม่มีใครจะไปบอกว่าให้ยกย่องคนนี้นะ
        แล้วเค้าจะทำตามหรอกค่ะ โอเครึยังคะ เพลีย อีกห้านาทีนะถ้าอยากถามอะไรอีก

      11. นี่แหละคือสิ่งที่ไม่เข้าใจเอสเอ็มว่าทำไม ละเลย ไม่ให้ความสำคัญ หลงลืม ไม่ทราบได้

        คงไม่จำเป็นเท่าไหร่มั้งแค่ข่าวโปรโมท ไม่จำเป็นต้องพยายามโปรโมทอะไรให้เอสเจอยู่แล้วหนิสำหรับเอสเอ็ม ไม่จำเป็นต้องสน

        ไอ้การกระทำที่ไม่สน ก็ถึงบอกว่าใครไม่ดูดีๆคงไม่เชื่อ และไม่เข้าใจ
        ก็เลยไม่อยากให้ใช้ข้อมูลแค่บางเบามาหักล้างเพราะสิ่งที่เห็นมานาน มันไม่ใช่แค่ไม่กี่คน

    2. ส่วนเรื่อง โปรดักชั่น อันนี้เราไม่ทราบจริงๆ เพราะเราเป็นคนที่ประเมินค่าอะไรไม่ได้เลย แต่ที่เราคิดคือ บางอย่างที่เราเห็นบางทีอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดนะค่ะ (เพราะเราก็ไม่ได้เป็นฝ่ายจัดการอะไร วงใน)

      แต่ว่าเราจะยืนยันเหมือนเดิมเลยค่ะ คือแค่ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะเรื่องพาดพิงมาวงอื่นเนี่ยแหละ ไม่น่ามีดราม่าเลย คนเขียนบล๊อคเกาหลีน่าจะจั่วหัวไป SM ตรงๆเลย T^T (แต่ก็เข้าใจแหละค่ะว่าพอถ้ามีวงมาเปรียบเทียบก็ช่วยให้ตัดสินได้แต่ทำไมต้องมา ‘แจ๊กพอต’ โดนงานงอก – -‘)

      1. คุณ ^^ พิมไปเปลืองแรงเปล่า คนโง่มันก็คือคนโง่ มันไม่รับรู้อะไรหรอก ติ่ง…

        แค่หลักทำงานง่ายๆ มันยังไม่รู้อะไร แถแบบข้างๆคูๆ บ่งบอกถึงสติปัญญา และประสบการณ์ ที่ไม่รู้แต่ทำเป็นอวดรู้ คนประเภทนี้ เงิบ!! มาแล้วนักต่อนัก

        มันก็เห็นๆอยู่ นักข่าวนำข่าวประชาสัมพันธ์ของ SM มาเขียน แต่ด้วยหลักของการเขียนข่าว ต้องเขียนกระชับ ย่อได้ก็ย่อ แล้วหากเลือกนะ ในเกาหลีให้เลือก ดงบัง เอสเจ โซชิ นักข่าวจะเลือกเขียนใครล่ะ..?? ง่ายๆ คิดไม่ออกเหรอ?

        ดงบัง เป็นตำนาน bb ที่ยังไงก็เหนือกว่าเอสเจอยู่วันยังค่ำ ในแง่คนทั่วไป
        โซชิ คือ gg แห่งชาติของเกาหลีมาหลายปี คู่กับ bigbang มีโฆษณาและสื่อให้ความสนใจมากขนาดไหน

        หากให้เลือกสองในสาม ทุกสำนักก็ต้องตัด SJ ทิ้ง ถึงแม้ค่ายจะแจ้งรายชื่อไปทั้งหมด

        เข้าใจมั้ย ติ่ง!!? เฮ้อ สงสารพ่อแม่จริงๆ มีลูกสมองด้อยค่าขนาดนี้

    3. แล้วทำไม ถึงมีข่าว ทั้งที่มีชื่ิอ SJ ไม่มีชื่อ SJ ละค่ะ = = เราก็ไม่เข้าใจว่า ถ้า sm เป็นคนบอกข่าว ทำไมข่าวมันถึงออกมาไม่เหมือนกันในเมื่อคนบอกมันเปนคนเดียวกัน

      1. ออ อยากทราบว่าทำไมถึงทราบว่าเป็นแหล่งข่าวที่ขึ้นตรงต่อทางเอสเอ็มด้วยอะค่ะ ขอบคุณค่ะ

      2. ก็บอกแล้วไงคะว่าสื่่ออิสระที่ว่าไม่ได้ขึ้นตรงไม่ได้เอาข้อมูลตามคำบอกเล่าของใครมาเขียน เค้าเขียนตามข้อมูลของเค้าคอลัมพ์ของเค้าเอง

        ไม่ใช่สื่อที่เสนอด้วยการบอกเล่าข้อมูลที่ส่งตรงมาจากเอสเอ็ม คุณลองหาข้อแตกต่างของสองประเภทนี้ดูนะ

      3. แล้วก็มีความจำเป็นอะไร (ถ้าแหล่งข่าวนั้นขึ้นตรงกับเอสเอ็มจริงรวมถึงถ้าจะให้รายการ CTP ยกเอาข่าวที่สำนักข่าวในสังกัดของตัวเองมาออกอากาศ) เอสเอ็มถึงต้องไม่ลงข่าวของหนุ่มๆด้วยละค่ะ ในเมื่อก็เป็นศิลปินในสังกัดของตัวเอง ถ้าให้เป็นข่าวยังไงทางฝั่งของเค้า(SM) ก็ได้ประโยชน์มากกว่าไม่ลงอยู่แล้วอะค่ะ

      4. ดูชื่อ และรูปแบบรายการสิคะ ว่าเค้าทำงานกันยังไง
        ข่าวโปรโมทไม่ใช่บริษัทจัดให้แล้วมันจะใครจัดให้ล่ะคะ
        ส่วนข่าวอิสระที่เค้าจะยกย่องใครนั้นคงไม่มีใครจะไปบอกว่าให้ยกย่องคนนี้นะ
        แล้วเค้าจะทำตามหรอกค่ะ โอเครึยังคะ เพลีย อีกห้านาทีนะถ้าอยากถามอะไรอีก

      5. ก็ยังไม่ได้บอกหลักฐานว่าเป็นสื่อของทางเอสเอม อยู่ดีอะค่ะ รวมถึงเหตุผลที่อ้างมา เราก็ไม่รู้ว่าทางรายการเค้าเป็นยังไง(มีแต่ความคิดส่วนตัวของคุณsowhat) ส่วนตัวที่เราดูนะค่ะ CTP ตอนนี้ SJ เด่นมากเลยค่ะ ^^(นอกเรื่อง)

      6. เพลีย เหมือนกันค่ะ เรื่องของเราก็ไม่ใช่ เฮ้อออ = =

      7. ตอบผิดที่!

        นี่แหละคือสิ่งที่ไม่เข้าใจเอสเอ็มว่าทำไม ละเลย ไม่ให้ความสำคัญ หลงลืม ไม่ทราบได้
        คงไม่จำเป็นเท่าไหร่มั้งแค่ข่าวโปรโมท ไม่จำเป็นต้องพยายามโปรโมทอะไรให้เอสเจอยู่แล้วหนิสำหรับเอสเอ็ม ไม่จำเป็นต้องสน
        ไอ้การกระทำที่ไม่สน ก็ถึงบอกว่าใครไม่ดูดีๆคงไม่เชื่อ และไม่เข้าใจ
        ก็เลยไม่อยากให้ใช้ข้อมูลแค่บางเบามาหักล้างเพราะสิ่งที่เห็นมานาน มันไม่ใช่แค่ไม่กี่คน

      8. คือเราไม่ได้จะปกป้องอะไร เอสเอ็มนะค่ะ เราแค่ออกมาโต้แย้งข้อที่พาดพิงถึงเท่านั้นแหละค่ะ ไอที่เอสเอ็มมันผิด เราก็ด่าเหมือนกัน แต่อย่างว่าแหละค่ะ แค่แฟนคลับจะไปทำอะไรได้ เค้ากุมชะตาของคนที่เรารักที่เราชอบไว้อยู่ แล้วเราก็เลิกชอบคนในสังกัดเค้าไม่ได้ด้วย ^^

      9. สุดท้ายนะ
        คุณถามว่า”ออ อยากทราบว่าทำไมถึงทราบว่าเป็นแหล่งข่าวที่ขึ้นตรงต่อทางเอสเอ็มด้วยอะค่ะ ขอบคุณค่ะ”

        อยากจะดูหลักฐานจากทางคุณมากกว่าค่ะว่ารู้ได้ยังไงว่าข่าวโปรโมทไม่ได้เอามาจากแหล่งข่าวซึ่งคือเอสเอ็ม แค่นี้แหละค่ะ

        แล้วก็เรื่องโปรดั๊กชั่นที่ขอความเห็น ที่คุณตอบมามันเป็นไปตามความคาดหมายว่าคุณจะตอบอย่างนี้อยู่แล้ว เราก็ไม่น่าถามเลยแฮะ 55

      10. ค่ะ จะเห็นว่าเราไม่ได้พูดเลยนะค่ะ ว่า ข่าวโปรโมทไม่ได้เอามาจากแหล่งข่าวซึ่งคือเอสเอ็ม จะเห็นเลยว่าตอนแรกเราพูดว่า เอาข่าวมาจาก sm (SM เป็นคนบอก) ซึ่งนักข่าวแต่ละสำนักมาเขียน(ต่อเติมเพิ่มลด)กันเอง (คือข่าวจากตัวกลางเหมือนกัน แต่มาเปลี่ยนตรงที่นักข่าวถ่ายทอดออกมา) แต่พอคุณมาบอกว่า มันมีแหล่งข่าวอิสระ กับ แหล่งข่าวของsm เอง เราเลยถามไงค่ะ ว่ารู้มาได้ไงยังไงว่า เค้าเป็นแหล่งข่าวของ เอสเอ็ม อะค่ะ

      11. ค่ะแล้วก็ ถ้าจะกรุณา ช่วยบอกหน่อยได้ไหมค่ะว่า สำนักข่าวไหนข่าวอิสระ สำนักข่าวไหนของ sm เราจะได้ไปดูว่าสรุปมันเป็นยังไงค่ะ เพราะว่าก็เห็นว่าเราพึ่งทราบเรื่อง มีนักข่าวอิสระ กับมี ของ เอสเอ็มเนี่ยแหละ =.=

      12. มันจะกลายเป็นว่าเราดูปกป้อง บริษัทเซ็งเคร็งนั่นไหมเนี่ย เฮ้อออ =.=

      13. โดยสรุปที่เราต้องการจะสื่อคือ ไม่ว่าความจริง(ที่เราไม่รู้นอกจากเราจะคิดไปเองว่ามันเป็นอย่างนั้น) ออกมาเป็นยังไง ก็อย่าพาดพิงเลยค่ะ พาดพิงมาดราม่าเกิด แล้วบล๊อคนี้แค่ชี้แจงเท่าที่ฝั่งของเราโดนพาดพิงเท่านั้น เรื่องอื่นเราก็ไม่ทราบค่ะ

      14. กรรม พูดวนไปวนมา ก็พุดไปแล้ว คุณก็ยอมรับว่ามันใช่นี่ว่าแหล่งข่าวมันคือเอสเอ็มม

        คุณไม่ต้องยอมรับ ก็น่าจะรู้อยู่แล้วเวลาที่ให้ข้อมูลในเชิงกระจายข่าว โปรโมทบริษัท บริษัทก็ต้องเป็นคนให้ข้อมูล จริงมั้ย
        ข่าวมันไม่เหมือนกัน ก็ยกตัวอย่างสองสื่อให้ดูแล้วไงว่ามีความต่างกันยังไง
        ไม่ต้องเชื่อเราก็ได้ แต่ให้ไปพิจารณาดู

        ไม่จำเป็นเลยนะเนี่ยที่จะแพ้จะชนะเนี่ยจุดนี้ ถ้าคุณเห็นขัดแย้งก็แค่อยากเห็นหลักฐานชัดๆว่าที่เราพูดไปมันไม่ใช่แค่นั้นแหละค่ะ

      15. สรุปคือผิดที่ sm เอาข่าวนั้นไปโปรโมตรายการนั้นใช่ไหมค่ะ

      16. โอเคค่ะ จบ ก็โบ้ย SM ไป เพราะมันผิด เราก็เชียร์ศิลปินเราไป อย่างมากก็เหลืออีก 5 ปี เฮ้ออออออออออออออออ

      17. คุณนี่นะ บอกให้คนอื่นอย่าพาดพิงๆ แล้วก็พูดเหมาเอาโดยไม่ให้เหตุผลความน่าจะเป็นเป็นเลยซักนิดก็บอกว่าโบ๊ยๆให้บริษัทไป

        คือ ไม่ชอบโบ๊ยค่ะ เอาตาสิ่งที่เชื่อ ข้อมูล(อย่าทวง) และเหตุผลว่ามันเป็นอย่างนั้น
        คุณไม่มีอะไรให้แม้แต่ความน่าจะใช่ ก็สรุปเองแล้ว

        อีกห้าปีอะไรคะ ออกจากกรมมาแล้วอาจจะมีต่อก็ได้ อย่ามายุ่งกับเรื่องของSJเลย พูดทำนองนี้เนี่ย

        แบ็ตใกล้จะหมดแล้วนะ ยาวมากกับบล็อคเนี้ย!

      18. เราหมายถึง 5 ของฝั่งเราค่ะ ไม่ใช่ฝั่งนู่น ส่วนเรื่องโบ้ย SM ก็แน่สิค่ะ ไม่งั้นจะมาได้ไงอิ #SMunfair เนี่ย

      19. บอกว่ามีข้อมูลแต่ไม่มีหลักฐานมา แล้วใครมันจะไปเชื่อละค่ะ = =

      20. เหรอ ก็นึกว่าไปคำนวณอายุของเรียวอุค คยูคงไม่ได้เกณฑ์
        ก็พอดีมันเป๊ะพอดีไง ก็เลยนึกว่าพูดส่อเสียดแทง

        อีที่ว่าโบ้ยเนี่ย มั่นใจร้อยเปร์เซ็นต์ว่าเค้าพูดมามันไม่จริงแล้ว?
        ที่พูดไปไม่รับฟังอะไรเลยคุณก็คงจะคิดอย่างนั้น ถือว่าคุณคิดเอาเองแล้วกันนะ

        อยากจบก็อย่าต่อ รู้ใช่มั้ยว่าอย่าต่อน่าจะไม่ทำอะไร

      21. ก็เราไม่รู้ไงค่ะ เราเลยถามหาหลักฐาน ซึ่งคุณก็ไม่มีให้ แล้วถ้าไม่ให้โบ้ย บริษัท (ที่คุณว่าเนี่ย ทำไมไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญกับตัวศิลปินของคุณสักที) คุณจะโบ้ยใคร SNSD ????

        ไปๆมาๆพวกเราก็ไม่มีใครรู้นั่นแหละว่า SM คิดไร ถ้า ทำไมถึงไม่โปรโมต ฝั่งคุณทั้งๆที่จะช่วยเพิ่มกำไรให้ทางบริษัทด้วยซ้ำ จะเถียงกันไปยังไงก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นมาหรอกค่ะ ไอบริษัทมันก็ไม่สนใจอยู่ดี

      22. หลักฐานก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นไง เห็นมั้ย
        จะเอาหลักฐานจะๆ สามารถมั้ย คงจะดีกว่าถ้าคุณเอาหลักฐานของคุณมาบอกว่ามันไม่ใช่

      23. แล้วคุณรู้ได้ไงละค่ะ ว่าที่คุณคิดเรื่องรายการ CTP ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แล้วคุณรู้ได้ไงละค่ะว่ามันมีช่องข่าวของบริษัทมันจริง เราก็ยกตัวอย่างที่มันเป็นกลาง ว่ามันอาจจะบังเอิญซวยยกเอาข่าวที่ไม่มีพาดหัว ทั้งๆมีอีกหลายข่าวที่เนื้อหาครบถ้วนกว่า เฉพาะในเหตุการณ์ของ ctp ออกไปแล้ว (เหตุการณ์เดียว) แต่คุณก็บอกมันไม่ใช่ มันเป็นอย่างนี้ๆๆๆๆๆ แล้วคุณก็ไม่เอาหลักฐานว่ามันเป็นอย่างงี้ มันมีแหล่งข่าวอย่างนี้ออกมาให้ดู เราก็จนปัญญาจะเข้าใจคุณค่ะ
        ดู ความเห็นข้างบนเราได้เลยค่ะ เราไม่ได้เคยยืนยันว่า มันเป็นแบบนี้ เราแค่บอกว่า อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญที่รายการยกเอาข่าวนี้มาใช้ อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับ SM แต่เป็นที่นักข่าวที่เขียนข่าว แต่คุณก็บอกไม่ใช่ เฮ้อ

      24. เราหยุดแล้วนะค่ะ อะไรจะเกิดมันก็เกิดเถิด ถกกันมา เกือบ 4 ชั่วโมง

  8. **ถ้าฮีชอลพูดแบบนี้จริง แสดงว่าเขาไม่ได้ติดตามข่าวจริงจัง เพราะข่าวซุปเปอร์จูเนียร์ในเกาหลี หรือแม้แต่ที่ SM แปลลงมาใน SMTOWN on facebook มีข่าวของซุปเปอร์จูเนียร์ ทั้งเพลงขึ้นชาร์ต, ยอดขายอัลบั้ม หรือแม้แต่ยอดชมบน YouTube มากมาย

    ****ประโยคนี้หมายความว่า ถ้าฮีชอลพูดจริง ก็เป็นความผิดของฮีชอล ละสิ คหสต เช่นกัน ไม่ได้ดราม่า สงสัยเฉย ๆ

    1. ใช่ค่ะ ถ้าฮีชอลไม่ได้ตามข่าว แต่มาบอกว่าทางค่ายไม่เขียนข่าวให้เลยทั้งที่มีข่าวลง ก็แสดงว่าฮีชอลพูดไม่จริง หรือไม่ก็ตีตนไปก่อนไข้ถูกไหมคะ เราไม่ได้ตั้งใจด่าศิลปินหรอกค่ะ แต่อยากให้มองตรงๆๆ ว่าถ้าเขาไม่ติดตามข่าว แล้วมาพูดแบบนี้ มันสมควรหรือ?

      1. อยากจะตอบ processic418 ว่า เรื่องนี้ต้องให้คุณที่เขียนบทความนี้มาเป็นคนตอบ ไม่ใช่คุณที่ตีความหมายเป็นแบบนั้น เพราะความหมายที่ คนเขียนบทความนี้เขียนอาจจะเป็นอีกแบบนึง เพราะภาษาพูดกับภาษาเขียนมันต่างกัน

      2. processic418 เราอยากจะบอกคุณว่า ฮีชอลพูดถึงในกรณี เพลงติดชาร์ต ที่ไต้หวันว่า ทำไมไม่เขียนบทความ ซึ่งก็เป็นเรื่องจิงที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการเขียนบทความเรื่องขึ้น แต่มาเขียนหลังจากที่สื่อไต้หวันและเอล์ฟประโคมข่าว ที่เราไม่พอใจก็คือ ถ้าไม่รู้จัก คิมฮีชอล และเอสเจเป็นอย่างดี ก็ไม่ควรมาลงข้อความแบบนี้ แล้วที่คุณว่าไม่ได้ตั้งใจด่า ศิลปิน แต่ข้อความของคุณก็คือด่าแล้ว ปล.ไปหาข้อมูลมาก่อนจะมาด่าศิลปินของคนอื่น เพราะไม่งั้นเราก็ด่าศิลปินของคุณได้โดยไม่ต้องมีข้อมูลเหมือนกัน

      3. เราอ่านลิ้งนี้ ที่เป็นเอลฟ์ต่างชาติ เขียนบล๊อคแสดงความคิดเห็นถึงบทความนี้ไว้ ตรงข้อ 7 นะค่ะ เหมือนมันจะเป็น mistranslation เข้าใจที่ฮีนิม สื่อความหมายผิดนะค่ะ ซึ่งเราไม่รู้ว่าตัวเวปอังกฤษ(ที่แพร่)ตอนแรกกลับบล๊อคอันนี้(ที่เค้าอ้างว่ามีคนเกาหลีช่วยแปลให้)อันไหนถูกผิดยังไงนะค่ะ

      4. ตอบคุณ pungshi เราก้พยายามหาข้อมูลแล้วนะคะ ดูจากลิงค์ที่เรานำเสนอ แต่บล็อกเกาหลีที่เขียนถึงฮีชอลข้อนี้เขาก็ไม่ได้บอกเวลา หรือแสดงหลักฐานใดๆ ซึ่งเราก็บอกว่า “ถ้าฮีชอลพูดจริง” แล้วมี “ข่าวอันนี้ออกมาแล้วจริง” นะคะ คือถ้าคุณจะแย้งเรื่องช่วงต่อเวลา คุณก็สามารถแย้งได้เลยค่ะ แสดงหลักฐานเวลามาค่ะ เราเพียงแสดงความคิดเห็นตามที่บทความแปลอังกฤษ ซึ่งแปลจากบล็อกเกาหลีมาก็เท่านั้น

  9. อ่านแล้วข้องใจข้อ 3 จากบทความเข้าใจว่า เค้าจะสื่อถึงว่าทำไมอัลบั้มของเอสเจที่ทำมาจากกระดาษ ถึงขายแพงกว่าอัลบั้มที่ทำจากเหล็ก หรือที่เจ้าของบทความชี้แจงว่ามันคือดีบุก ถึงแม้ว่ามันจะขนาดใหญ่กว่าก็ตาม

    ที่เกาหลีกระดาษมันแพงมากนักหรือไง ?? วานเจ้าของบทความหาคำตอบให้ด้วยนะคะ

    1. เราขอตอบแทนแล้วกันนะคะ คุณลองอ่านให้จบสิ ^^ กล่องกระดาษก็จริง แต่มันทั้งใหญ่กว่า มีของเยอะกว่า ลองดูภาพที่เจ้าของบทความเอามาเปรียบเทียบให้ดูสิคะ โปสการ์ดของโซนยอชิแดก็เท่าแบ้งค์20พับครึ่ง ”เปรียบเทียบอัลบั้ม 슈퍼주니어 – 5집 [Mr.Simple] Album Size: 300 * 300 (mm) กับ 소녀시대 – 3집 [The Boys] Album Size: 148 (mm) * 165 (mm) จะเห็นได้ว่าแม้ของ ซุปเปอร์จูเนียร์จะเป็นอัลบั้มกระดาษ แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่ามาก”

      1. อ่านจบแล้วค่ะ ถึงบอกว่าตีความหมายผิดรึป่าว ขนาดใหญ่กว่าแต่มันก็ทำมาจากกระดาษ เค้าต้องการรู้ว่ากระดาษที่เกาหลีมันแพงมากขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมมันถึงขายแพงกว่าที่ทำจากดีบุก ขนาดใหญ่กว่าแล้วยังไง ขนาดใหญ่กว่ามันทำให้ต้นทุนผลิตแพงกว่าขนาดเล็กที่ทำจากดีบุกเหรอ ที่ถามคืออยากให้หาคำตอบให้ว่ากระดาษที่เกาหลีมันแพงขนาดไหน ??? ถ้ามันแพงขนาดนั้นทำไมทุกค่ายเพลงถึงไม่หันไปใช้วัสดุอย่างอื่นแทนล่ะ ของบางอย่างใช่ว่าขนาดเล็กแล้วจะถูกกว่าเสมอไป ถ้ายังหาคำตอบเรื่องต้นทุนการผลิตไม่ได้ ขนาดก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีที่จะเอามาอธิบาย

        mini cooper กับ fortuner อันไหนราคาแพงกว่ากัน

      2. แล้วค่าขนส่งล่ะคะ…
        ที่คุณคิดว่าแพงกว่าอาจจะไม่ใช่นะคะ..

      3. ความเห็นส่วนตัวนะคะ
        เราว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับที่เอสเจมีหลายปกรึเปล่าคะ
        การพิมพ์แยกปกจำนวนมันจะน้อยกว่า การพิมพ์ปกรวม
        แล้วด้วยขนาดที่ใหญ่ อาจทำให้ต้นทุนมันสูงขึ้นน่ะค่ะ

        แต่เราว่าสวยดีค่ะน่าเก็บนะคะ ดีกว่าปกซีดีใส่กระดาษปกมาใบนึงของเราเป็นไหนๆ แถมแพงเหมือนกันด้วยนะ TT

    2. ขอเสริมหน่อยค่ะ สงสัยเหมือนกัน “เปรียบเทียบอัลบั้ม 슈퍼주니어 – 5집 [Mr.Simple] Album Size: 300 * 300 (mm) กับ 소녀시대 – 3집 [The Boys] Album Size: 148 (mm) * 165 (mm) จะเห็นได้ว่าแม้ของ ซุปเปอร์จูเนียร์จะเป็นอัลบั้มกระดาษ แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่ามาก” คือขนาดต่างกันประมาณ 100 – 200 mm .. มันเป็นเรื่องใหญ่สินะคะ = =

      1. 200มิลก็ 20 เซนเลยนะคะ มันก็ไมใช่น้อยๆนะคะ เกือบเท่า 1 ไม้บรรทัดเลยนะคะ ^^

      2. ราคากระดาษอัลบั้ม sj หรือราคากล่องดีบุกเราไม่สามารถทราบได้ถูกไหมคะ ที่บอกเรื่องขนาดคือ ความแตกต่างที่คุณได้จากการต้องเสียเงินมากขึ้นที่สามารถเห็นได้ชัดเจน

  10. ลองมองดูในมุมกว้างๆดีไหม ? มุมที่ไม่รู้จัก สองวงนี้คือวงอะไร ? ลองเปิด MV ลองเปิดเพลงฟัง ลองเปิดรูปภาพของสองวงนี้ดูซิ มันจะเป็นแบบไหนกันนะสองวงนี้ ความแตกต่างมันมีอยู่ในนั้น มันขึ้นแต่ว่า เราพร้อมที่จะยอมรับไหม ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ

    ซึ่งในความจริงค่ายก็ออกอัลบั้มให้ ซุปเปอร์จูเนียร์ รวมถึงป้อนงานโฆษณา, พิธีกร, ดีเจ, ละคร และอื่นๆ <<< อันนี้ขอชี้แจงนะคะ ทางเรื่องอัลบั้มทางค่ายจัดให้จริงค่ะ แต่เรื่อง โฆษณา พิธีกร ดีเจ ละครหรืออื่นๆนั้น ทางผู้จัดรายการ ละคร โฆษณา เป็นผู้เลือกค่ะ ไม่ใช่ทางต้นสังกัด อันนี้ทุกศิลปินนะคะ ^^

    เหตุผลของคน มันก็คือเหตุผลที่มีในตัวมันเอง มันก็เหมือนพวกเรื่อง จิตวิทยานั่นแหละ ถึงจะอ้างเหตุผลร้อยแปด แต่สำหรับคนบางคนเหตุผลบางอย่างก็โต้แย้งกับเหตุผลส่วนตัวไม่ได้หรอก

    1. แต่ถึงถ้าตัวเค้ายื่นงานมาให้ แต่ SM ไม่รับงาน ก็ไม่ได้ตัวศิลปินไปไม่ใช่หรอค่ะ ^^

      1. ไม่เกี่ยวนะคะ เท่าที่เราอ่านมา เอสเอ็มแค่มีส่วนพิจารณาว่ารายการเหมาะไหม แบบเกิดผลเสียกับตัวศิลปินหรือเปล่าถ้าไม่ นั่นก็ืคือตัวศิลปินจะตัดสินเอง ว่าฉันจะรับดีไหม ? ถ้าไม่ งานนั้นก็ต้องยกเลิกนะคะ ^^

      2. แต่การที่บริษัทโฆษณา จะยื่นมาให้ก็ต้องผ่านทางบริษํทต้นสังกัดก่อนไม่ใช่หรอค่ะ งั้นก็ถือว่าบริษัทเป็นด่านแรกที่งานจะผ่านเข้ามา(เพราะคงไม่สามารถตกลงคุยกับตัวศิลปินโดยตรง) ถ้า SM ไม่ป้อนงานจริง คงไม่มีงานไหนเหลือรอดไปให้ทางฝั่งศิลปิน ตกลงรับงานไม่รับงานหรอกค่ะ

    2. มันเป็นเรื่องของการวางแผนธุรกิจค่ะ ไม่ว่าจะการลงทุนในส่วนไหนก็ตาม ที่เราพยายามชี้คือ อย่าเอามาเทียบกันแค่ช่วงที่ค่ายเหมือนจะดัน แต่ให้เทียบกับวงอื่นๆ ในค่ายด้วย โซชิเองก็มีเพลงที่ใช่ฉากเดิมๆ ซ้ำๆ หรือเอาเบื้องหลังมาทำเป็น mv เหมือนกัน

      ส่วนเรื่องงานต่างๆ คุณก็ฟังมาเหมือนกัน มันไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน ตามหลักความเป็นจริงจะติดต่ออะไรมันก็ควรผ่านค่ายอยู่ดีล่ะค่ะ

  11. ฝากถึงแฟนคลับ SJ ที่เข้ามาในโพสท์นี้ว่า โพสต์นี้เค้าชี้แจงเกี่ยวกับบล็อกที่เนติเซ็นเกาหลีเค้าเขียนกล่าวหา SM ในส่วนเนื้อหาที่พาดพิงถึง snsd ซึ่งในตัวต้นฉบับภาษาเกาหลีเค้าพาดพิงอย่างไม่ยุติธรรมเพื่อสร้างความเกลียดชังแก่ snsd ในหลายๆ เรื่อง อาทิเช่น MV ที่มีโปรดักชั่นที่ดีกว่า แต่ก็เลือกที่จะโจมตี snsd ที่คุณภาพโปรดักชั่นไม่ได้ต่างกันมากเลย แต่ในขณะที่ tvxq คุณภาพดีกว่าเห็นๆ ทำไมคุณไม่พาดพิงเขาบ้าง

    พอเขาเอาข้อเท็จจริงมาโต้แย้งก็หาว่าเขาเอาเฉพาะข้อมูลปัจจุบันมาอ้าง ก็เพราะว่าตัวบล็อกต้นเรื่องนั้นเขาเอาข้อมูลช่วงปัจจุบันมาไงล่ะ แล้วพอเขาเอามาชี้แจงคุณก็ลากไปถึงเรื่องเก่าๆ ที่มันไม่ได้อยู่ในประเด็นอีก อย่างนีั้มันไม่แฟร์ไปหน่อยเหรอ?

    สรุปคือ คุณจะสร้าง sentiment อะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานก็ได้ ตราบใดที่แพะรับบาปคือ snsd อย่างนี้แล้วจะให้คนอื่นเขามาช่วยเห็นใจคุณลงได้ยังไง ทั้งๆ ที่เราก็เห็นใจในหลายๆ เรื่องที่ SM ทรีทกับ SJ มานะ แต่ถ้าคุณมาเหวี่ยงใส่คนอื่นที่เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยแบบนี้มันไม่น่าสงสารหรอก จะบอกให้

  12. ลองมองหลายๆมุมสิคะ ตั้งแต่มีอัลบั้มมาของsnsdไม่ใช่อัลบั้มกระดาษหรอ ? ไม่ใหญ่เท่า SJ ด้วยซ้ำ เท่าขี้มดค่ะ ! แต่ครั้งนี้เพราะต้องตีตลาดอเมริกานะคะ ก็เลยต้องทำให้ดี หาเงินเลี้ยงบริษัทค่ะ ! วงนี้ก็ใส่เกงวอร์มเต้นนะคะ 4 คนค่ะ -___-; ยูล หยอง ยุน ซอ ^^

    1. เฮ้อออออออ อันนี้มีข้อโต้แย้งนะคะ เราติดตาม โซชิที่บอกว่าเป็นวอร์มกันมันเป็นเลคกิ้งนะคะของ Adidas ค่ะ ^^

      1. ก็เหมือนกับที่เอลฟ์บางพวกบ่นเรื่องกางเกงดงแฮใน a-cha ล่ะค่ะ


    2. เราไม่ได้จะกวนหรือว่าอะไรนะ -..-
      “แต่ครั้งนี้เพราะต้องตีตลาดอเมริกานะคะ ก็เลยต้องทำให้ดี หาเงินเลี้ยงบริษัทค่ะ ! ”

      แล้วเอสเจไม่ได้หาเงินเลี้ยงบริษัทเหรอ?
      ่อยากรู้แค่นี้แหละ : )

      1. แล้วเราบอกหรอคะ ว่าเอสเจไม่ได้หาเลี้ยง คุณพูดเองทำไม เหมือนคุณว่าวงตัวเองนะคะ ^^

  13. เอ่อ… นั่นน่ะซิ
    RDR ยังแค่กล่องธรรมดาเลย
    (เห็นแล้วมันดูน่าสงสารมากอ่ะ)
    ไม่เป็นธรรมตรงไหน -3-

  14. สิ่งที่ไม่เข้าใจทำไมต้องเจาะจงเป็นโซชิ?? บทความที่อ้างอิงนั่น จาก FC กลุ่มนึง แต่ก็มีพาดพิงถึงโซชิ ถึงจะไม่ได้รุนแรง แต่ก็สงสัยว่าเพราะอะไร? อย่างในเรื่องการลงทุนอะไรต่างๆ อย่าง MV ที่บางคนโวยวาย ถ้าลองมองให้กว้างและดูทุก MV ของศิลปินทุกวงในค่าย จะเห็นได้ชัดเหมือนกันค่ะ ว่าไม่ได้ลงทุนแค่วง วงเดียว รวมถึงอัลบั้ม โซชิเพิ่งจะมีอัลบั้มแบบนี้ครั้งแรก ก็โดนเอาไปเปรียบเทียบ ถึงจะเป็นกระดาษหรือดีบุก แต่ขนาดก็แตกต่างกันมาก ไม่เข้าใจทำไมต้องเจาะจงแค่สองวงนี้?? หรือเป็นเพราะออกอัลบั้มใกล้กัน ?? ที่พี่เขาออกมาชี้แจงแค่อยากให้ลองเปิดใจรับฟังความเห็นในมุมอื่นบ้าง ถ้ามัวแต่ฟังความเห็นฝั่งตัวเองด้านเดียว คุณก็คิดได้แบบเดียวเหมือนกันแหละค่ะ แหละอาจเกิดความเข้าใจผิดได้ คนเราคิดไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่ลองมองและเปิดใจรับฟังความเห็นของผู้อื่นบ้าง คุณอ้างว่าหลักฐานที่นำมาแย้งมันตรงประเด็นแต่จะถูกไหมมันอีกเรื่อง แล้วบทความนั้นเขียนบนความถูกต้อง 100% หรือเปล่า ??? ถ้าบทความนั้นเขียนมาจากความถูกต้องและชัดเจน โดยไม่ใส่ความรู้สึกของตัวเองลงไป คงไม่มีข้อแย้งหรอกค่ะ 🙂

  15. มันเกิดปัญหาเพราะการพาดพิงกันเนี่ยแหละค่ะ
    รู้ทั้งรู้ว่า 2 แฟนคลับ นี้มันความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

  16. คืออ่านแล้วเห็นมีคนค้านในหลายๆเรื่อง ผมอยากให้ยกเรื่องที่ค้านว่ามีเหตุผลอะไรบ้าง+แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (ในที่นี้ทางเจ้าของบล๊อกได้อธิบายในส่วนของโซวอนไปแล้ว) โซวอนก็อาจไม่รู้เรื่องของ SJ และเอล์ฟ ก็คงจะไม่รู้เรื่องของ SNSD เท่ากับวงที่ตัวเองชอบหรอกครับ
    แต่ถ้าคุยกันด้วยเหตุผล ไม่มีอคติ และมีสติ ผมเชื่อนะว่าทั้ง 2 ฝ่ายคงจะเข้าใจกันได้
    ทั้งนี้ ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า SNSD และ SJ เขาสนิทและรักกันนะครับ เขาคงไม่รู้สึกดีเท่าไหร่หรอกถ้าแฟนคลับของวงตัวเองไปไม่ชอบอีกวงนึง

    สำหรับผม ผมไม่ชอบแอนตี้ทุกวง ผมรับและเสพทุกวง แต่ถ้าคุณจะแอนตี้ SM เพราะเรื่องธุรกิจอันนี้ผมสนับสนุนครับ แต่ผมไม่อยากให้แอนตี้ศิลปิน
    ผมเชื่อว่าศิลปินแค่คิดว่า แฟนคลับของกลุ่มตัวเองไปตั้งกลุ่มแอนตี้วงอื่น (ไม่ใช่เฉพาะ SNSD หรือ SJ หมายถึงทุกวงใน K-pop ที่อาจจะมี) เขาก็คงรู้สึกไม่สบายใจแล้วล่ะครับ แล้วแฟนคลับล่ะจะทำให้ศิลปินที่ตัวเองชอบไม่สบายใจหรือ

  17. เอสเจคอนมาทุกปีมีทุกปีจะเอาอะไรอีกคะ ?
    โซวอนรอพี่สาวมาคอนที่ไทยนานแล้วรู้มั้ย ?
    จะบ่นอะไรมากมายทำไมไม่พูดถึงเอฟเอ็กซ์ชายนี่บ้างล่ะ ?
    บอกว่าลำเอียงบอกว่าเพลงเดบิวต์โซชิยังอลังกว่าวงอื่น หรอ ?
    อย่ามองแค่โซชิอย่างเดียวสิมองวงใหม่ ๆ บ้าง

    1. เอ่อ….ก็ไปโทษผู้จัดงานสิคะ ที่พี่สาวไม่มีคอนที่ไทยน่ะ
      ไม่เกี่ยวกับเอสเจหรือเอลฟ์นะ

      1. คาดว่าเค้าคงจะหมายถึงเรื่องป้อนงานแหละมั้งค่ะ
        แต่เรื่องจัดคอนของ โซชิ นี่ผิดแค่ที่ผู้จัดฝั่งไทยฝ่ายเดียวค่ะ

    2. บทความนี้เป็นของเอลฟ์เกาหลีค่ะ ไม่ใช่ของเอลฟ์ไทย
      แล้วอีกอย่างโซชิไม่ได้งานไม่ได้เกี่ยวกับเอลฟ์

  18. เรื่องมันเกิดมาแล้ว ความรู้สึกที่เสียไปแล้ว พูดอะไรไปก็เหมือนแก้ตัว ทางที่ดีทำทุกอย่างตามที่สมควรดีกว่า

  19. เป็นคนที่ติดตามเคป๊อบมาหลายปีแล้ว
    ไม่ได้เป็นแฟนคลับวงไหนเป็นพิเศษ
    แต่เท่าที่เห็น smค่อนข้างจะไม่ลงทุนกับเอสเจจริงๆนั่นแหล่ะ
    เพราะว่าตอนนี้sjก็ดังมากๆ(ในความรู้สึกเรา) ทำไมเพลงทีเซอร์เอ็มวี เหมือนไม่ตั้งใจเท่าของsnsd
    นี่เป็นความคิดเห็นของเรานะ เราไม่รู้อะไรมากมายหรอก

    1. แต่มันก้อจริงนะคะที่คุณพูดอ่ะ เท่าที่เราเห็นมา

  20. น่าแปลกนะค่ะที่ แฟนคลับ ศิลปินค่ายเดียวกันมาทะเลาะกันเอง กับเรื่องที่ไม่น่าจะเอามาเป็นประเด็น อยากให้แอนตี้มีแค่ที่เกาหลีอย่างเดียวก็พอ ที่จริงไม่อยากให้มีเลยด้วยซ้ำไป ก็ไม่รู้จะทำอะไรเอาแต่จ้องจับผิดหาเรื่อง แล้วตัวศิลปินเค้าจะรู้มั้ยว่าแฟนๆที่เค้ารักเป็นแบบนี้
    อันที่จริงตัวศิลปินเค้าก็รักกันดีออกนะ ไม่้ห็นเค้าจะมาน้อยอกน้อยใจอะไร

  21. ไม่เข้าใจจริงนะ ถ้า SM มันไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมซีวอนต้องออกมาพูดเรื่องสัญญาทาสว่าไม่เป็นจริงด้วย และทำไมต้องทนอยู่ถึงขนาดนี้ทั้งที่มีบริษัทอื่นอีกตั้งมากมายที่รองรับได้อยู่แล้วอันนี้พูดตามหลักอ่ะนะ ความน่าจะเป็นในหลักคณิตศาสตร์ที่เราเรียนมามันก้อน่าจะบ่งบอกได้อยู่แล้ว คุณเคยคิดกันบ้างไหมว่าถ้าโดนกดขี่ ข่มเหงขนาดนี้ เป็นคุณ คุณจะทนอยู่ไหม แล้วอยากรู้จริงๆว่าคนที่ติดตามอ่ะ คุณเคยเข้าไปในที่ประชุมหรอ คุณถึงรู้เรื่องราวได้มากมายขนาดนี้ คุณเป็นพนักงานของ SM หรืออย่างไร คุณรู้เรื่องนี้มาจากใคร คุณพูดขอให้พูดเป็นกลางอย่าใส่ร้ายศิลปินวงใดวงหนึ่ง ถ้าคุณจะว่าคุณก้อว่า SM โดยไม่ต้องโยงศิลปินขึ้นมา อันนี้มันถึงจะไม่มีดราม่า แต่ถ้าเมื่อใดคุณเอ่ยอ้างศิลปินมันก้อจะมีดราม่าเกิดขึ้น โดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆที่ตอนนี้เราน่าจะไปช่วยกันเรื่องน้ำจะท่วมกรุงเทพตายกันหมด แต่คุณก้อยังจะมา คิดแต่เรื่องพวกนี้ เค้าเอาคำชี้แจงมาคุณก้ออ้างความเห็นส่วนตัว เพิ่งเข้าใจวันนี้เองว่า คนมันจะเกลียด ต่อให้ทำดีแทบตายมันก้อเกลียด ปลงจริงๆ

    1. ถ้าเอสเอมมันดีจริงทำไมเจวายเจกับป๋าถึงฟ้องหล่ะค่ะ?

  22. คงไม่แสดงความเห็นในส่วนที่ว่าเอสเอ็มลำเอียงหรือไม่ อย่างไร เพราะเราก็ไม่ใช่เอลฟ์ ไม่ได้ติดตามSJ คงจะไม่สามารับรู้บางเรื่อง บางความรู้สึกเหมือนกับเอลฟ์ แต่ขอแสดงความคิดเห็นในประเด็นการผาดผิง ซึ่งมันแปลกจริงๆที่ต้องเป็นโซนยอชิแด ตามเหตุผลในบทความนี้ก็ทำให้เห็นชัดขึ้นว่าทั้งอัลบัม และอะไรหลายๆอย่างไม่ได้ดีเด่ไปกว่าใคร จะมีก็อัลบัมนี้ที่จะมีการโปรโมทในยุโรปเท่านั้น ดังนั้นการที่ผาดผิงพวกเธอ เราจึงรู้สึกว่ามันเป็นอคติมากกว่าเหตุผล
    บทความของพี่เค้าอาจจะไม่ได้ถูกต้อง 100% เค้าถึงได้เขียนบอกว่า หากมีข้อสงสัยหรือชี้แนะ สามารถสอบถามได้ แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าบทความจากเกาหลีก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ถูก 100% เช่นกัน

  23. คือว่า… อ่านความเห็นไปเรื่อย ๆ แล้วมันชักออกทะเลอ่ะค่ะ

    อยากจะบอกว่า แฟนคลับใคร ก็ต่างรักศิลปินที่ตัวเองรักกันทั้งนั้น

    ..ก็เข้าใจว่าพวกคุณมองในมุมแฟนคลับที่เห็นอกเห็นใจที่ศิลปินที่คุณรักว่าไม่ได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกับประเด็นต่าง ๆ ที่ยกกันเข้ามาพูดคุยไม่รู้จักจบ

    รบกวนอ่านอย่างมีสติกันหน่อยนะคะ เพราะเท่าที่เราอ่านดูก็เป็นแค่ข้อชี้แจงและหลักฐานที่ไม่ต้องการดราม่าจากทั้งสองวง ส่วนหนึ่งก็ทำให้เห็นว่า ‘บทความต้นฉบับ’ นั้นใส่ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนมากกว่าข้อเท็จจริงไปซักหน่อย
    โอเคๆ มันอาจจะมีส่วนจริงบ้างที่ทำให้พวกคุณไม่พอใจ แต่ไม่ใช่พออ่านข้อความที่มีคนเห็นต่างก็อยากจะเถียงและเอาชนะไปซะหมด

    และก็อีก กับบทความนี้ที่มีการพาดพิงและเปรียบเทียบในหลาย ๆ เรื่องระหว่างหนุ่ม ๆ เอสเจกับสาว ๆ โซชิ ..มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่โซวอนแบบเราอ่านแล้วจะรู้สึกไม่สบายใจและอยากจะปกป้องศิลปินที่เรารักเหมือนกับที่คุณ processic พยายามชี้แจงอยู่ด้วยเหตุผล

    ..เชื่อมั่น 100% ว่าถ้าใครมาพาดพิงถึงหนุ่ม ๆ เอสเจแบบนี้บ้างพวกคุณคงไม่ก้มหน้าก้มตารับฟังแล้วปล่อยให้มันผ่านไป พวกคุณก็จะออกมาปกป้องพวกเขาเหมือนกัน

  24. อัลบั้มใหญ่กว่ามาก แต่คุณภาพมันเป็นศูนย์ค่ะ ยอมรับว่ารูปข้างในใหญ่จริง แต่เรารู้สึกว่าเค้าทำลวกๆ มาก รูปหน้าปกเราก็จะหลุดออกมาแล้วค่ะ ไม่ทากาวหรืออย่างไรเราก็ไม่เข้าใจ ขอบอัลบั้มก็จะขาดแล้วค่ะ ทั้งๆ ที่เราไม่เคยเอาเพลงออกมาฟังเลยด้วยซ้ำไป

    ส่วนเอ็มวี ยอมรับค่ะวงอื่นอาจจะเต้นในสตูเหมือนกัน แต่จะมีพร็อบอื่นๆ เช่ย รถ อะไรแบบนี้ แต่ถ้าคุณดูเอ็มวีของเอสเจ เต้นอย่างเดียวค่ะ ไม่มีอะไรเลย มีแต่เพลง กับเอสเจเต้นค่ะ ตัดต่อก็งั้นๆ

    ส่วนเรีื่ื่องพาดพิงนี่ว่าทำไมต้องเป็นโซชิ เราก็คงตอบไม่ได้ อาจะเพราะแฟนคลับ เพราะเอลฟ์โซวอน ไม่นับญาติพี่น้องกันมานานแล้วค่ะ ไม่เหมือนแคสเอลฟ์

    1. นั่นแหละค่ะ คือปัญหา เรื่องพาดพิงนี่แล ถ้าจั่วหัวไปถึง sm ตรงๆมันจะไม่มีดราม่าเกิดขึ้นเลย

    2. ถ้าคุณหยิบยกทุกอย่างที่คุณคิดว่ามันไม่ดีมาเรียกร้องนั่นก็ไม่ใช่แล้วล่ะค่ะ
      เพราะมันไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่จะได้ดั่งใจคุณไปซะหมด 100% หรอกค่ะ

      บางทีก็ยังบ่น ๆ กับเพื่อนเลยว่า mv ของสาว ๆ โซชิหลัง ๆ มานี้ก็มีแค่ซูมหน้ากับเต้นรวมเหมือนกัน แต่มันก็เป็นเรื่องเล็กน้อยถ้าเทียบกับความรักและสิ่งที่เราสนับสนุนสาว ๆ เพราะนั่นก็ถือว่าเป็นผลงานของพวกนาง ที่เราก็มีความสุขที่ได้ติดตาม

      สิ่งที่พวกเราทำได้ดีที่สุดคือสนับสนุนศิลปินที่เรารัก ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม..

      ที่ว่าโซวอนกับเอลฟ์ไม่นับญาติกันอันนี้เราไม่ทราบนะคะ เพราะเราก็มีเพื่อนที่เป็นเอลฟ์มากมายที่สนับสนุนสาว ๆ เหมือนกัน

      1. ขอโทษทีค่ะ อาจจะใช้คำผิด เอลฟ์บางส่วนแล้วกันนะคะ

      2. 3. คุณภาพของอัลบั้ม
        หัวข้อมันว่าอย่างนี้ค่ะ เราก็เลยพูดให้ฟัง

  25. คนที่มีความคิดดีๆอ่านแล้วก็เข้าใจ พวกที่ยังไม่เข้าใจ คงเป็นบัวเหล่าที่ 2 3 4
    บัว4เหล่า
    1.(อุคคฏิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
    2.(วิปจิตัญญู) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
    3.(เนยยะ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
    4.(ปทปรมะ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน
    ****ต้องใช้ธรรมะเข้าช่วย

    1. นำธรรมะข้อนี้ไปศึกษาให้ถ่องแท้ด้วยตัวเองก่อนเถอะจ่ะ
      แล้วก็ไม่ต้องยึดหลักอะไรมากแค่ให้เข้าใจหลักการใช้เหตุผลของมนุษย์โลกผู้มีอารยธรรมเค้าใช้กันก็พอ

      ฝึกเจริญปัญญาอาจจะช่วยได้บ้าง

      1. ตั้งแต่อ่านมา sowhat อะไรนี่ ดูจะมีปัญหาทางจิตมากสุด

        แถมยังชอบอวดรู้ อ้างเหตุผลแบบลอยๆ อ่านแล้วแทบหัวเราะ ทั้งที่การเขียนในหลายๆอย่างบ่งบอกความคิดว่าตื้นเขินขนาดไหน สาธุ เออ คุณเเข้าใจคำนี้มั้ย ตอบแบบลอยๆ เหตุผลแบบลอยๆ ถ้าไม่รู้ความหมายจริงๆ ไปมหหาลัยนะแล้วถามอาจารย์ดูนะว่าแปลว่าอะไร หรือที่จริงยังไม่จบมัธยม??

        ไม่เก่งเรื่องพุทธศาสนามาก แต่คุณนี่มันบัวในคอนกรีตลึกหลายเมตรจริงๆ

  26. [นอกเรื่อง]คุณ ABC จะขายน้ำผลไม้ รสกล้วย รสส้ม รสสลิ่ม เป้าหมายการขายก็คือการได้กำไร และสินค้าก็ไม่ได้ผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ดก็ต้องมีการลงทุน

    เมื่อทำการขายไปปรากฏว่า รสส้มขายได้ดีตีตลาดแตก รสกล้วยก็ยังขายได้อยู่ ส่วนรสสลิ่มขายไม่ออกเลย

    คุณ ABC จึงวางแผนขยายกิจการต่อ
    รสส้ม กำลังกำไรงาม ขยายตลาด ปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ ออกโปรโมชั่น
    รสกล้วยยังขายได้อยู่ ลองเพิ่มของแถม กระตุ้นยอดขายดู
    รสสลิ่ม สงสัยสู้ไม่ไหว เตรียมลงสินค้าล๊อตใหม่ละกัน

    แล้วถ้าเป็นคุณล่ะจะเลือกลงทุนกับ สินค้าตัวไหนต่อล่ะ ?

    1. อดีตหรือปัจจุบัน เราก็ไม่เห็นว่า รสส้มขายได้ดีตีตลาดแตก ตรงไหนเลยค่ะ
      ขอโทษที นี่ก็ความเห็นส่วนตัว

      1. ลองเปิดใจสิคะ.. แล้วคุณก็จะเห็นเอง

    2. ใช้สติปัญญามองดูตลาดให้ทั่วถึง ว่าตัวไหนมันตีตลาดได้ดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคกว่า ของอย่างนี้มาลงทุนสุ่มสี่สุ่มห้าลงทุนไปแล้วเจ๊งขึ้นมามันก็ถือเป็นค่าโง่แล้วกันนะพ่อค้า

      1. เจ๊งไม่เจ๊งก็เรื่องของพ่อค้าอ่ะค่ะ
        ถึงยังไงเราก็ชอบกินน้ำส้มอยู่ดี (และก็กินรสอื่น ๆ ด้วย ^^) โฮ๊ะๆๆ

      2. เพราะเค้าคิดไงว่าไม่ควรลงทุนสุ่มสี่สุ่มห้า

        SM เลยไม่ค่อยลงทุนกับวงของคุณ เพราะยังไงก็มีแฟนน่า…ที่พร้อมซื้ออยู่แล้ว (อยากให้ตอบตรงๆ ก็จะบอก พอใจยัง)

        อีกอย่างนะ คิดเหรอว่าเค้าลงทุนวงอปป้าอะไรนั่นมากขึ้นแล้ววงอปป้าจะดังขึ้น มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ ขนาดขายได้แต่แฟนคลับแท้ๆ แล้วที่ลงทุนในคอนให้อลัง มีโชว์มากี่ปี อยากหน้าหนาบอกว่าเป็นเพราะอปป้านะ ถ้าไม่มีค่ายสนับสนุน จะมีคอน SS ที่ยิ่งใหญ่ติดต่อกันได้ยังไง

        รู้มั้ย กว่าจะไปเปิดคอนแต่ละประเทศ เค้าต้องทำวิจัยโน่นนี่ มี Agency ไปติดต่อ อย่างอเมริกาใต้ อยู่ๆ SJ ไป ก็ดับ ถ้าไม่ได้ agency ที่ดี และการตลาดที่รอบคอบ

        เลิกคิดถึงแต่ตัวเองซะทีเถอะ ไอพวกเด็กเห็นแก่ตัวเอ้ยยยย

  27. ถ้ายังคิดว่าสิ่งที่ตัวเองมีไม่ดีพอ มันก็คงไม่มีอะไรที่พอดีสำหรับตัวเองเช่นกัน !!!

    ขอความสงบจงเกิดแด่โซชิและโซวอน -..-

  28. อาจจะยาวไปสักนิด แต่ขอเสนอความเห็นส่วนตัวที่มีต่อบทความเป็นประเด็น โดยวิเคราะห์แยกส่วนบทความที่ผู้เขียนเขียนขึ้น ดังนี้

    1.บทความนี้ เป็นการวิพากษ์บทความที่กล่าวถึงการปฏิบัติต่อศิลปินแบบ 2 มาตรฐานของ SM โดยพยายามเปรียบเทียบความไม่เป็นธรรมที่ผู้เขียนระบุว่า SJ นั้นได้รับตลอดมา ในประเด็นต่าง ๆ เช่น
    – คำพูดของอีซูมานต่อ SJ
    – การเลื่อนคอนเสิร์ต SS4
    – ความพยายามในการเปลี่ยนจากคอนเสิร์ตเดี่ยวเป็นคอนเสิร์ตรวมในอเมริกาใต้
    – การไม่ระบุชื่อวง SJ ลงไปในการนำเสนอข่าว
    – สิ่งที่ฮีชอลพูด สรุปความได้ว่า SJ ต้องสู้เพื่อตัวเองตลอดเวลา

    มีหลักฐานบางส่วนที่ผู้เขียนได้นำเสนอให้เห็นว่า ด้านหนึ่งนั้น SM ไม่ได้ละเลยที่จะโปรโมท หรือปล่อยให้ศิลปินในสังกัดที่มีกลุ่มแฟนคลับมากมายพร้อมสนับสนุนอย่าง SJ เดินโดยลำพังเสียทีเดียว และในหลายความเห็นข้างต้นที่ยอมรับว่า SM สนับสนุน SJ จริงแต่ไม่เสมอไปทุกครั้ง บางครั้งแฟนคลับต้องสนับสนุนกันเองอย่างเต็มที่ทั้งที่น่าจะเป็นหน้าที่ของค่ายต้นสังกัด

    อย่างไรก็ตาม ภายใต้ระบบการบริหารจัดการที่เข้มงวดของ SM ความกดดันและความเหน็ดเหนื่อยถูกระบายผ่านพืนที่ส่วนตัวของศิลปิน ทำให้ “การขาดการสนับสนุนที่ดี” ในบ้างครั้งที่ว่านั้นถูกเปิดเผยออกมา…และแน่นอน การที่เรื่องเหล่านี้ออกมาจากปากตัวศิลปิน ย่อมจะมีผลกระทบวงกว้างต่อความรู้สึกแฟนคลับที่รักพวกเขา ยิ่งกว่าการที่ทางค่ายออกมาพูดเองว่าค่ายได้สนับสนุนและยกย่องศิลปินในสังกัดอย่างไรบ้าง

    ประเด็นข้างต้น ไม่เกี่ยวข้องพาดพิง SNSD โดยตรง เพราะเป็นเรื่องความไม่พอใจของแฟนคลับในการบริหารจัดการของ SM ที่มีต่อ SJ ถึงแม้จะเป็นอย่างนี้ ก็ยังพบว่า มีบางคนที่อ่านบทความต้นเรื่องพยายามตีความเหมารวมว่า เป็นเพราะอยากดัน SNSD มากกว่า SJ ซึ่งเราไม่เห็นด้วย

    2.ประเด็นความไม่เป็นธรรมที่ระบุในบทความเกาหลี ที่พาดพิง SNSD โดยตรง คือ เรื่องกล่อง ที่มีการเปรียบเทียบชัดเจนในกรณีกล่องดีบุก และแพคเกจกระดาษ และประเด็นที่ไม่เปรียบเทียบแน่ชัด คือ เรื่องโปรดักชั่นของ MV

    เห็นด้วยตามคมเม้นท์ที่ระบุถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายของปกกระดาษที่สูงกว่าแพคเกจดีบุก เราเองไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของบทความต้นเรื่องว่า ต้องการสื่อว่าทางค่ายกลั่นแกล้งให้แฟนคลับของ SJ ซื้อกระดาษแพง ๆ ที่เก็บรักษายาก ชำรุดง่ายใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น เรามองว่าต้นทุนการทำอัลบั้ม SJ ล่าสุดที่สูงมากทั้งที่เป็นปกกระดาษ เป็นเพราะว่ากระดาษเหล่านั้น มีสีสันที่ฉูดฉาดสดใส การทำบล๊อกพิมพ์คุณภาพสูง 9-10 บล๊อกเพื่อผลิตปกแต่ละปกออกมา สายพานการผลิตที่ต้องเพิ่มความซับซ้อนและระมัดระวังเข้าไปเพราะความต่างของปก ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากขนาดที่เพิ่มขึ้นของแพคเกจ…และหากทำเป็นกล่องเหล็ก ต้นทุนก็จะยิ่งสูงกว่านี้อีก ในขณะที่ SNSD ไม่มีแพคเกจที่หลากหลายและขนาดใหญ่โตแบบนั้น

    และเรื่องโปรดักชั่น หากแฟนคลับของ SJ จะให้ความเห็นว่า ดูยังไง SJ ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนด้านโปรดักชั่นเทียบเท่า SNSD เราก็เคารพความเห็นคุณ เพราะเป็นความเห็นส่วนบุคคล ซึ่งในความเห็นของเราที่คุณพึงเคารพเช่นเดียวกัน คือ เราเห็นว่า SNSD ไม่ได้เลิศหรูอะไรไปกว่าศิลปินคนอื่นในสังกัดเลย การถ่ายทำก็ถ่ายทำในสตูดิโอ แสงสีเสียงไม่ต่าง ตัวก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดบิวท์ หากไม่นับ Into The New World ที่มีฉากนอกสถานที่ ก็แทบเรียกได้ว่าไม่มีอะไรใหม่…

    ย่อหน้านี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับบทความ แต่ขอให้ความเห็นสักนิด การระบุว่า SMUnfair นั้น ค่อนข้างขัดแย้งในตัวเองบางครั้ง หลายเรื่องที่ยกมาเปรียบเทียบกับ SNSD มีทั้งเรื่องที่ดูน่าเห็นใจกว่า และเรื่องที่ต้องการเอาชนะกันให้ได้ อย่างเช่น คุณแฟนคลับบางคนระบุว่า MV ของ SJ ที่ออกมาหลาย ๆ เวอร์ชั่น SNSD ไม่มีวันทำได้แบบนั้น ในขณะเดียวกัน ก็บอกว่าเกิดความไม่เท่าเทียมกันเรื่องการสนับสนุนและการผลักดันศิลปินในค่าย โดยที่ SJ มักจะได้รับอะไรๆน้อยกว่าวงอื่น เราจึงเพียงแต่สงสัยว่า การที่ SJ ต้องได้รับเทียบเท่าหรือมากกว่าศิลปินวงอื่นเสมอและตลอดไปไปในฐานะ The King of Global Boy-Group นั่นคือความเท่าเทียมและไม่สองมาตรฐานใช่หรือไม่

    เรื่องความเหลื่อมล้ำของเวลาที่เกิดความไม่เป็นธรรมกับ SJ บางความเห็นระบุว่าเรื่องมันเกิดมานานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่เจ้าของบทความวิพากษ์นี้แสดงข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ค่อนข้างเป็นปัจจุบันตามประเด็นในบทความต้นเรื่อง เรื่องนี้คุยกันสิบชาติก็ไม่จบ เพราะทางเจ้าของบทความเองคงจะพยายามชี้แจงในส่วนที่เป็นประเด็นนำเสนอที่จำกัด ชี้แจงได้ หากนำระยะเวลาตลอดการเดบิวท์ที่ผ่านมาตั้งต้นชี้แจง เหตุการณ์หลายอย่างที่ต้องนำมาพูดคุยคงจะยาวเป็นหางว่าว

    ที่เราต้องการพูด เรายอมรับว่าเราเป็นโซวอนคนหนึ่ง ที่ฟังเพลงของทุกวงในค่ายนี้ รวมถึง JYJ ที่แยกตัวออกไป เราทราบดีว่า SM มักจะหาประโยชน์จากความเข้มงวดของตัวเองที่กดดัน ศิลปินเครียด จนลุกลามกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่มแฟนคลับเสมอ ยิ่งตีกันเอง ยิ่งรักกันเอง อยากสนับสนุนพวกเดียวกันเอง ตลอดจนถึงอยากเอาชนะคนอื่น ๆ ทั้งที่แม้ว่าตัวศิลปินจะรู้สึกได้ถึงความไม่เป็นธรรมของทางค่ายจริง แต่ตัวศิลปินแต่ละวง “อาจจะ” ไม่ได้มีความขัดแย้งกันอย่างที่เราแฟนคลับพยายามสร้างให้มันเกิดขึ้น

    …และมันก็แย่ที่ว่า ถึงเราจะรู้แบบนั้น แต่เพราะกลยุทธ์ที่เฉียบคมของ SM ทำให้ไม่ว่าอย่างไร เราก็ต้่องสนับสนุนศิลปินที่เรารักอยู่ดี

  29. เรื่องอื่นเราไม่ขอพูดแต่เรื่องอัลบั้มของเอสเจที่เราจะพูดเท่าที่พอได้เห็นมาบ้าง

    อัลบั้มแรกๆ ก็แค่กล่องซีดีธรรมดาๆ
    อัลบั้มสองก็กล่องดีวีดี เหมือน RDR แหล่ะ
    อััลบั้มสามประมาณ 5*5 นิ้ว ไม่มีกล่อง แต่เป็นกระดาษธรรมดาๆที่หนากว่าเอสี่นิดหน่อย หลังหน้าปกมีพลาสติก(แบบกล่องดีวีดี)ใส่ซีดีไว้ ก่อนปกหลังก็เป็นสมุดภาพ
    อัลบั้มสี่นี่ ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่เป็นกระดาษล้วนๆ สวนซีดีอยู่หลังปก ซึ่งใส่ไว้ในกระดาษที่ตัดแค่บนท้าย (พอจะนึกออกไหม?)
    อัลบั้มห้า แค่อัลบั้มใหญ่ขึ้น + ซีดี + กระดาษ 10 แผ่น
    อัลบั้มรีแพ็คเกจ อาช่า เราเห็นซีดีแล้วเอือมแทน = =

    แล้วที่บอกว่าเพราะสาวๆจะตีตลาดอเมริกาต้องทำอัลบั้มให้ดีๆหน่อย
    แล้วเอสเจที่เป็นศิลปินรุ่นใหญ่ คนก็รู้จักไม่ใช่น้อย ทำไมไม่ทำดีๆบ้าง?
    (อันนี้เราอ่านมากจากที่นี่หรือสยามโซนเราลืม เราไม่ดราม่านะ แค่ถาม – -)

    เราชอบทั้งเอสเจและโซนยอแหล่ะ บางเรื่องเราก็เห็นใจเอสเจและเอลฟ์
    บางเรื่องเราก็เห็นใจสาวๆกับโซนยอ

    ปล.อยากให้เอสเจกลับมาครบ 13 TT

    1. ทีี่ใส่ซีดีอัลบั้ม 4 อุบาทว์ที่สุดแล้ว มันไม่ล่วงหายก็บุญมากแล้วค่ะ

  30. ต่างคนต่างความคิด ต่างความรู้สึก
    คนได้ประโยชน์ก็คงมีความคิด ความรู้สึกไม่เหมือนกันอยู่แล้ว = =^

    ถ้ากล่องดีบุกมันถูกแบบนั้น ขอแนะนำทุกค่ายทุกสังกัดหันมาใช้กล่องดีบุกแทนกระดาษราคาแพงกันเถอะนะค่ะ ^_________________^

  31. ใครจะมาเข้าใจเอลฟ์ด้วยกันเองล่ะ :]
    มันก็แค่คำแก้ตัวของคน ๆ หนึ่งที่ต้องการเอาตัวรอด.

    อย่างที่ Ayane บอกนั่นแหละ
    เอาตรง ๆ บทความนี้คงถูกใจโซวอนหลายคนล่ะสิ่ หึ

    ที่คุณเอาแต่พูดว่า โซวอนเจอมาเยอะกว่าเอลฟ์ หรือพี่สาวเจอมาเยอะกว่าพี่ชาย
    คุณรู้ได้ไง ? คุณเป็นเอลฟ์หรอ ? เอลฟ์กับเอสเจเจอไรมาเยอะตั้งเท่าไหร่ ๆ
    แอนตี้ก็เคยมี แอนตี้ที่เคยทำร้ายพี่ชายก็เคยมี

    แล้วที่มีบางคนบอกว่า ใช่เพราะฮีซอลไม่ติดตามข่าว
    ถ้ามองในมุมกลับกันล่ะ ว่าเอสเอ็มมันแก้ตัว มันพยายามปฏิเสธสิ่งที่ฮีซอลจะพูด

    เอลฟ์ก็พอจะรู้จัก ฮีนิมใช่มั้ย ? คนตรง ๆ กล้า ๆ แบบฮีนิมเนี่ยนะ จะโกหก ? จะไม่ติดตามข่าวสารให้ดีแล้วออกมาพูด ? มันตลกเกินไปมั้ย ?

    ต่างฝ่ายก็ต่างอยากให้ฝ่ายตัวเองถูกนั่นแหละ !

    1. รบกวนช่วยอ่านตามคอมเมนต์ด้วยนะค่ะ เพราะคนเขียนบล๊อคเค้าก็บอกอยู่แล้วว่าถ้าผิดไม่เข้าใจมีข้อสงสัยตรงไหนช่วยชี้แจงด้วย ในคอมเมน ส่วนใหญ่จะมีตอบคำถามอยู่แล้วค่ะ

    2. พูดตามตรง(ต้องขอโทษคนเขียนบทความไว้ตรงนี้) ในบทความนี้เราเองก็ไม่เห็นด้วยกับคำว่า “ถ้าฮีชอลพูดจริง…” ในข้อที่ 7 เท่าไหร่นัก เพราะเราเชื่อว่าฮีชอลเป็นคนที่แสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ

      เราถูกใจบทความนี้ ไม่ใช่เพราะทำให้สาวๆ ดูเป็นคน “ถูกต้อง” ตลอดเวลา แต่เป็นเพราะ มีการพยายามแยกให้เห็นว่า สาวๆมีส่วน หรือไม่มีส่วนทำให้ค่ายปฏิบัติไม่เป็นธรรมต่อ SJ ในด้านใดบ้าง

      ไม่ใช่อยากให้ฝ่ายตัวเองถูกหรอกค่ะ แค่เห็นว่า โซชิไม่ควรจะถูกพาดพิงแบบนี้เพราะการบริหารจัดการของ SM ที่กระทำต่อ SJ และไม่อยากเปรียบเทียบในเชิงดีกว่ามากกว่า ว่าใครเจอมาเยอะกว่าใคร

      ในฐานะที่เป็นโซวอน เราเข้าใจวันเวลาเจ็บปวดเหล่านั้นดีค่ะ
      ความเจ็บมันก็คือความเจ็บ การทนเห็นคนที่เรารักถูกด่าทอ ทำร้ายร่างกายโดยแอนตี้แฟน คุณเองบอกว่าเข้าใจดี…ดังนั้น คุณก็น่าจะเข้าใจโซวอนเหมือนกัน

      1. ขอให้ความเห็นตรงนี้ว่า สำหรับที่เขียนว่า “ถ้าฮีชอลพูดจริง…” เพราะเราไม่แน่ใจว่าจากบทความเกาหลีแปลเป็นอังกฤษมีความผิดพลาดตรงจุดไหนหรือไม่ เพราะเป็นการยกคำพูดมาทั้งประโยค จึงเขียนประโยคนี้ไว้ เพื่อแสดงว่าเราแสดงความคิดตามประโยคที่แปลมาค่ะ ขออภัยหากทำให้สับสน

      2. ขอบคุณที่มาตอบนะคะ เราเข้าใจในสิ่งที่คุณอธิบาย และเห็นว่าดีมากที่คุณพยายามออกมาให้เหตุผล เพราะเรากลัวจะมีคนเข้าใจว่า ประโยค “ถ้าฮีชอลพูดจริง…” นี้หมายถึง ฮีชอลกำลังพูดโกหก ซึ่งเราคิดว่าเป็นช่องว่างทางภาษาอยู่ บวกกับความคิดของแต่ละบุคคลทำให้ตีความเป็นอย่างนั้นได้ แล้วก็มีแล้วจริง ๆ ด้วย

    3. “มันก็แค่คำแก้ตัวของคน ๆ หนึ่งที่ต้องการเอาตัวรอด”

      “เอาตรง ๆ บทความนี้คงถูกใจโซวอนหลายคนล่ะสิ่ หึ”

      “ต่างฝ่ายก็ต่างอยากให้ฝ่ายตัวเองถูกนั่นแหละ !”
      .
      .
      .
      .

      เอ่อ.. ได้ข่าวว่าทางคุณมาพาดพิงถึงเราก่อนนะคะ
      เราจะปกป้องสาว ๆ ที่เรารักบ้างไม่ได้เลยซิ

      ไม่รู้คุณไปอารมณ์รุนแรงมาจากไหนนะ
      แต่เราว่าอ่านบทความดี ๆ แล้วมีสติหน่อยเถอะค่ะ
      ว่าเค้าไม่ได้จะแก้ตัวให้ SM แต่โซวอนที่รักสาว ๆ ก็ออกมาชี้แจงเฉยๆ
      เพราะบทความต้นฉบับนั้นเปรียบเทียบกับสาว ๆ โดยตรง
      ศิลปินที่เรารักถูกพาดพิงแบบนี้แล้วโซวอนจะถูกใจทำไม พูดแปลก!!

      เรารักศิลปินทุกคน
      แต่ทำไมแฟนคลับบางคนถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ
      ..จ้องแต่จะหาเรื่องกันแบบนี้ก็ไม่ไหวนะคะ

      ถ้าหนุ่ม ๆ ที่คุณรักโดนพาดพิงถึงบ้าง
      คุณก็ต้องออกมาปกป้องเหมือนกันนั่นแหละค่ะ

    4. อ่ะแล้วคุณเป็นโซวอนหรอคะ ? คุณเป็นโซชิหรอคะ ถึงรู้ วงคุณเคยโดนปิดแท่งไฟใส่ไหมล่ะ เคยโดนทำแท่งไฟเป็นรูปกากบาทไหมล่ะ เคยโดนเสียงโห่มั้ยล่ะ เคยมั้ยล่ะที่ขึ้นแสดงแล้วไม่มีเสียงเชียร์ ถ้างั้นอย่าพูดดีกว่า่คะ ^^

      1. อ่ะเเล้วคุณเป็นเอลฟ์หรอค่ะ? คุณเป็นเอสเจหรอ? ถึงรุ้ วงคุณเคยถูกเอสเอมมันเปรียบเปรยว่าเป็นของเหลือมั้ยหล่ะ วงคุณสมาชิกคนนึงต้องใส่หน้ากากขึ้นแสดงมั้ย? วงคุณถูกเพิ่มลดคนมั้ยหล่ะ?
        วงคุณสมาชิกคนนึงต้องดามเหล็กไว้ที่ขายืนเดินแทบไม่ได้แล้วต้องมาขึ้นแสดงเลยมั้ยหล่ะ? เคยต้องมานั่งประท้วงในหน้าหนาวกรุงโซลเพื่อเรียกร้องให้วงของคุณมั้ยหล่ะ? วงคุณต้องแบ่งเป็นยูนิทย่อยมั้ย?……..
        มีเรื่องราวอีกมากมายที่เอสเจและเอลฟ์ต้องเจอและทนเจ็บปวด ถ้าคุณไม่รุ้คุณไม่เข้าใจ ก็อย่ามาพูดเลยว่าคุณโดนหนักกว่าเรา!

  32. ถ้ารู้สึกไม่พอใจ น้อยใจขนาดนั้น บริษัททำไม่ถูกต้องขนาดนั้น ทำไมไม่ลองทำเรื่องส่งไปที่บริษัทดูละคะ น่าจะช่วยได้มากกว่า มาทำให้เกิดประเด็นแล้วก็อ้างกันไปมา ดึงดัน ไม่จบ แล้วก็คิดว่าบล็อคนี้ก็แค่ตอบประเด็นในเรื่องที่มันทำให้เกิดดราม่าขี้นมามากกว่านะ ก็แค่ทำในส่วนที่ต้องทำ…เท่านั้น
    ส่วนเรื่องที่เอลฟ์น้อยใจ และคอยsupport sj เราก็เข้าใจ แล้วก็ให้กำลังใจด้วย แต่คิดว่ามาสนับสนุนวงที่รักให้ดียิ่งขึ้นดีกว่า มาเถึยงกันไปมาให้เสียใจทั้งคู่
    “หากมองโลกนี้ในแง่ดีซักครั้ง เธอจะรู้ว่าต่อให้เหงามากมายซักเท่าไหร่
    ก็ไม่ทำร้ายใครให้ต้องถึงตาย อดทนเอาไว้ในเวลาที่เหงากลับมามองตัว
    เราและชีวิตที่เคยได้เจอ เพราะเธออาจเปลี่ยนเป็นความเหงาเป็นเพื่อนเก่าที่แสนดี” ร้องเพลงให้ฟังคะ >< เขิล

  33. ต่างคนต่างความเห็น ต่างคนต่างรักศิลปินตัวเอง
    ปัญหามันจะไม่เกิดหรอกถ้าไม่พูดกระทบกระทั่งอีกฝ่ายก่อน

    SM ก็เหมือนทีมฟุตบอลแหละ ผู้จัดการทีมจะเลือกนักเตะคนไหนลงสนามก็ได้ นักเตะคนนึงอาจจะได้ลงเล่นมากกว่าอีกคน แฟนคลับนักเตะคนที่ได้ลงเล่นน้อยกว่าอาจจะไม่พอใจ ก็ต่อว่าผู้จัดการทีม ต่อว่าสโมสรไปสิว่าทำไมปฏิบัติกับนักเตะไม่เท่าเทียม เราไม่ได้ว่าเลยถ้าคุณจะทำแบบนั้น
    แต่สิ่งที่แฟนคลับ’บางส่วน’ทำอยู่ตอนนี้คือพาลใส่นักเตะอีกคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไรด้วยซ้ำ ผู้จัดการสั่งให้ลงไปเล่นในสนาม เขาก็ต้องลงไปเล่นตามหน้าที่ คุณจะมาต่อว่าเค้าได้ยังไงอะ

    เราใช้คำว่าแฟนคลับบางส่วนนะ ไม่ได้เหมารวม
    การที่คุณจะออกมาเรียกร้องสิทธิอะไรมันก็เรื่องของคุณ เราไม่เกี่ยวอยู่แล้ว
    แต่ในเมื่อมีการพาดพิงศิลปินของเรา พวกเราก็ออกมาปกป้อง ออกมาชี้แจง
    ใครเข้าใจก็ขอบคุณ คนไหนไม่เข้าใจ ก็เรื่องของคุณอีกนั่นแหละ ถถถถถถถถถถถถถถถ
    แต่ถ้าคนไหนพาลใส่โซชินี่ก็ไม่ใช่แล้ว งานนี้คงต้องขอ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถใส่อย่างเดียว
    LOL

  34. คิดภาพเป็นสามเหลี่ยม
    เหรียญมีสองด้าน สามเหลี่ยมมีสามมุม
    ลองมองแบบอยู่บนมุมบนที่สูงที่สุดบนสามเหลี่ยม
    แล้วคุณจะเห็นอีกสองด้านชัดขึ้น
    เอลฟ์บางคน มองแต่มุมของตัวเองจนเกินไปและบางทีใช้อคติและฟังคนพูด
    โดยที่ไม่ศึกษาอะไรเลยนอกจากฟังคำของใครๆที่บอกต่อกันมา
    บางทีเอลฟ์หลายๆคนควรจะรู้จักมองในมุมมองของฝั่งโซวอนบ้างนะ…

  35. อ่านแล้ว ให้กลับไปคิดด้วยก็ดีเหมือนกันนะคะ ถถถถถถถถถถถถ

    ใช้ความคิดสักนิด ก่อนที่เซลล์สมองจะฝ่อก่อนวัยอันควรนะคะ ยิ่งเดี๋ยวนี้เด็กไทยยิ่งโตไอคิวยิ่งลด อีคิวไม่ต้องพูดถึงล่ะค่ะ

    กลับมาเรื่องที่เป็นประเด็นนะคะ พูดตรงๆ ขนาดเราชอบสาวๆ บางทีเอ็มวีไม่สวย เพลงไม่โดน ปกซีดี RDR ที่เหมือน DVD ตามท้องตลาดทั่วไป เรายังทำใจได้เลย โลกนี้ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์แบบไปทุกอย่างหรอกค่ะ แต่คนมันรักและพร้อมจะสนับสนุนแล้วนี่คะ ถึงจะออกมาไม่ดียังไงก็ยังรักต่อไป อย่างน้อยศิลปินก็คือผู้ที่สร้างความสุขให้กับทุกคนนั่นแหละค่ะ และเราก็มีความสุขที่เราได้ติดตามศิลปินที่เรารักต่อไป

    ปริมาณของ “ความสุข”
    ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนของ “สิ่งดีๆ” ที่เราได้รับ
    แต่อยู่ที่ “มุมมอง” ของเราที่มีต่อ “สิ่งเหล่านั้น”

    แปลกดีนะคะ ค่ายอื่นๆแฟนคลับก็รักกันดี สนับสนุนในค่ายกัน แต่ไหงค่ายนี้แฟนคลับถึงไม่สามัคคีกันบ้างล่ะคะ เห็นศิลปินก็ดูสนิทสนมกันดี แต่ทำไมแฟนคลับ เฮ้ออ … นะ

    แฟนคลับเนี่ยก็เปรียบเสมือนน้ำที่คอยพยุงเรือของศิลปินให้โลดแล่นต่อไปได้ แต่ว่าน้ำก็ทำให้เรือล่มได้เหมือนกันนะคะ

  36. ทำไมเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นใหญ่มาก นึกว่าวันเดียวก็จะจบไป

    ในมุมมองของคนนอกคนหนึ่งที่มอง SJ มาประมา๊ณ 2 ปี ให้ความรู้สึกว่า
    SJ เป็นวงที่สมาชิกในวงรักกันมากและพวกเค้าก็รักครอบครัว SM มากเหมือนกัน
    ด้วยความสงสัย การประท้วงแบบนี้ เป็นผลดีต่อ SJ แล้วเหรอค่ะ
    เป็นสิ่งที่ SJ ต้องการหรือป่่าว มันจะไม่ทำให้ศิลปินอึดอัดมากขึ้นเหรอ

    อ่านความคิดเห็นมากๆ แล้วเริ่มงง สรุป ELFs ต้องการให้ SJ ออกจาก SM เหรอ?

    ถ้าประท้วงเพื่อบีบบังคับบริษัท มันคือ โลกธุรกิจ จะเอาความรู้สึกส่วนตัวและความยุติธรรมเท่าเทียมกันทุกอย่างคงยากค่ะ ลองดูใจตัวเองเป็นหลัก คุณสามารถมอบความเท่าเทียมให้กับทุกคนได้หรือไม่

  37. อันนี้เป็นความคิดเห็นนะคะ อย่างให้ใช้สติก่อนอ่านด้วยนะ

    จากที่บอกว่าเอ็มวีของดงบังมีการลงทุนสูงสุดเนี่ยไม่จริงเลยคะ
    เพราะว่าเอ็มวีBefore U Go ดงบังใช้เงินของตัวเองจ่ายคะ
    ดังนั้ขอเเย้งในข้อนี้ก่อนนะคะ
    เเละทางสังเกตดีๆ หลายอัลบั้มเเล้วคะที่sjใช้ฉากเดิมๆ องประกอบเดิมๆ
    เอ็มวีขาวดำไม่ก็ห้องโถงโล่งๆ การตัดต่อที่คุณภาพต่ำ
    เเล้ววงอื่นล่ะ?? เอ็มวีหรือทีดซอร์ของพวกเขามีอะไรมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ

    ส่วนเรื่องเเพ็คเกจอัลบั้ม
    เราได้เพียงเเค่เศษกระดาษราคาสูงมาตั้งเเต่อัลบั้มที่สองเเล้วคะ
    การ์ดเเรนดอมเราก็ได้เพียงเเค่ใบเดียวเอง เเถมต้องลุ้นด้วยว่าจะได้ปกใคร
    โปสเตอร์เเละการ์ดของใคร พูดง่ายๆการซื้ออัลบั้มของเอลฟ์ๆ
    ไม่ต่างจากการชิงโชคด้วยเงินเดิมพันที่สูงดีๆนั่นเเหละคะ
    ราคาอัลบั้มที่5ของsjมีราคาที่ทางเอสเอ็มทรูเอามาขายในไทยถึง1200บาท
    เเต่อัลบั้มกล่องเหล็กของโซซิมีราคาเพียง499-599บาท
    กระดาษเเพงกว่าเหล็กถึง50%เชียวหรือ?

    เรื่องคอนเสริต์ ชาวเปรูเรียกร้องการจัดคอนของss4มากกว่าsm town จริงคะ
    ชาวเปรูบ้างคนถึงกับออกมาพูดว่า เราไม่ต้องการsmเเต่เราต้องการss4มากกว่าคะ
    เเน่นอนว่าการโหวตไม่มีผลต่อการจัดคอนเสริต์ใดๆ
    เเต่อย่าลืมสิคะ เอลฟ์ฝรั่งเศสเคยทำเฟรชม็อปเต้นเพื่อเพิ่มรอบคอนsm town มาเเล้ว
    ไม่เเปลกเลยที่จะมีคนออกมาเรียกร้องบ้าง
    เเต่อย่าลืมสิคะการจัดคอนเสริต์นั้นต้องวัดความนิยมของศิลปินก่อนด้วย
    ในเมื่อในเปรูความนิยมของsuoer juniorมากที่สุด
    เเต่ทำไมถึงจัดSMTเเทนที่จะจัดSS4ล่ะ ในเมื่อจัดSS4ความเสี่ยงในการลงทุนมันน้อยกว่าไม่ใช่หรือ?

    ข้อหนึ่งนะคะ
    ขอพูดนิดนึงใครไม่ได้ติดตามเอสเจอย่างใกล้ชิดจะไม่รู้เลย
    ว่ากลุ่มเด็กชายทั้ง13คนนั้นเคยถูกทางค่ายกดดัน เเละตีกรอบให้
    เขาพยายามทำทุกอย่างให้ได้เดบิวต์ หากคุณเคยดูa walk to remember
    ไม่เคยก็ลองไปดูนะคะ ชีวิตของsjเเละดงบังชินกิก่อนเดบิวต์นั้นมันลำบากมากคะ
    พอเดบิวต์เเล้วมันยิ่งลำบากกว่าเก่า ทางค่ายป้อนงานให้ไม่หยุด จนไม่มีเวลาหยุดพัก เข้าโรงบาลเเล้วยังต้องฝืนตัวเองขิึ้นเวทีอีก smบังคับให้คนที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุจนต้องผ่าตัดมาขึ้นเวที บังคับให้เด็กชายที่เพิ่งรอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มาขึ้นรายการโชว์ บางคนต้องใส่หน้ากากขึ้นบนเวที ความจริงฉันจะพาดพิงถึงวงบางวงก็ได้ในที่นี้เเต่ฉันเลือกที่จะไม่พาดพิงดีกว่า
    ในขณะนี้การโปรโมทอัลบั้มของsuper juniorมีเพียงกระดาษโปสเตอร์จากเงินข้อแฟนคลับเท่านั้นเอง ในขณะที่วงอื่นนั้นทางค่ายโปรโมทให้
    ความเท่าเทียมอยู่ที่ใด? เอสเจเป็นวงที่ทำรายได้ให้ค่ายมากที่สุดวงหนึ่งเลยนะคะ
    เเต่พวกเขากับไม่ได้รับอะไรเลยบางกลุ่มศิลปิน
    SM เช่าโฆษณาทางโทรทัศน์ เพื่อโปรโมทอัลบั้ม

    บางกลุ่มศิลปิน SM เช่า neverเพื่อโปรโมทอัลบั้ม

    แต่เอสเจไม่เคยมีแบบนั้น

    โปสเตอร์โปรโมทที่แปะตามสถานีรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดินเป็นเงินของเอลฟ์ที่พวกเราทำธีมโปรโมทในทุกๆอัลบั้ม

    ไม่ใช่ว่าอยากทำก็ทำ มันเริ่มมาจากตอนอัลบั้ม2 SM ปล่อยอัลบั้มของเอสเจแบบไม่มีอะไรเลย ไม่มีการโปรโมท ไม่มีใครรู้ว่าเอสเจออกอัลบั้มแล้ว

    นั่นทำให้เอลฟ์เริ่มคิดว่า จะทำการโปรโมทเอสเจเอง

    เริ่มต้นจากอัลบั้ม3 beyond your imagination

    อัลบั้ม4 Sorry sorry, it is our time. Again

    อัลบั้ม5 RETURN OF THE SUPERIOR

    ทุกๆครั้งที่อัลบั้มใกล้เข้ามา จะมีการโดเนทเงินไปที่ sj-market เพื่อทำโปสเตอร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆในการคัมแบ็คของเอสเจ

    โปสเตอร์ที่ใช้ในทุกๆครั้ง ทาง sj-market จะเปิดโหวตให้ลงคะแนนว่าจะใช้แบบไหน และใช้แบบที่ถูกเลือกมาทำเป็นโปสเตอร์เพื่อไปแปะไว้ตามที่ต่างๆ

    ในทุกๆแผ่นที่แปะ จะมีข้อความบอกว่า เมื่อจบการโปรโมทของเอสเจ เอลฟ์จะมาเก็บโปสเตอร์เหล่านี้ไป

    เราทำแบบนี้มาตั้งแต่อัลบั้ม3

    เอสเจเริ่มต้นจากการเป็นโปรเจคแค่ 3 เดือน เป็นโปรเจคที่เตรียมถูกยุบเมื่อเวลาผ่านไป

    ตอนไปรายการเพลงครั้งแรก ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามาจาก SM เป็นนักร้องที่จะร้องเพลงด้วยซ้ำ

    ไม่มีห้องแต่งตัว ไม่ที่พักศิลปิน เอสเจนั่งรอตามที่นั่งข้างทาง แต่งตัวในห้องน้ำ เรื่องนี้พี่ทึกเล่าในสตรองฮาร์ท

    ส่วนข้อสุดท้าย
    ขอร้องว่าถ้าไม่ได้ติดตามมาดีๆอย่าเขียนวิจารณ์คะ เพราะข้อนี้ยอมไม่ได้จริงๆ
    ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวที่เเฟนคลับเขียนส่งไปบ้าง เเฟนคลับช่วยกันประโคมข่าวอย่าหนัก จนสื่อเขียนข่าวออกมาก ส่วนคิมฮีชอลเป็นคนที่ติดตามข่าวของเเฟนคลับเเละของวงตัวเองเป็นอย่างดี คิมฮีชอลไม่ใช่คนโกหก เเละพูดความจริงเสมอ การที่คุณมากใช้คำว่า ถ้าฮีชอลพูดแบบนี้จริง มันเป็นการดูถูกศิลปิน
    คิมฮีชอลได้ออกมาเเสดงความไม่พอใจต่อค่ายหลายครั้งไม่ใช่เเค่ครั้งนี้ครั้งเดียว

    บางที..ก็สงสัย คนที่มองว่า เอสเจได้รับการโปรโมทที่ดีจาก SM มันคืออะไรเหรอ ตรงไหนที่ทำให้รู้สึกว่าเอสเจได้รับสิ่งที่พิเศษจาก SM

    ก่อนนั่น ลีซูมานก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้เข้าประชุมกับ SJM ทั้งๆที่นัดแล้วเพื่อไปให้กำลังใจคอนศิลปินวงอื่นใน SM นักข่าวถามต่อว่า แล้วเอสเจไม่น้อยใจเหรอ ชูมานบอกว่า นั่นคืองาน พวกเขาไม่มีสิทธิที่น้อยใจ

    ใช่ว่าทุกคนจะทนได้ ฮันเกิงเองก็มีเรื่องฟ้องร้องกับ SM จนตอนนี้คดีสิ้นสุดแล้ว…

    ทำไมเอสเจถึงยังอยู่ SM เพราะเหลือเวลาแค่ 2 ปี ในสัญญายาวนานนั่น เอสเจเหลือสัญญากับ SM อีกแค่ 2 ปี ฮยอกเล่าในคิสเรดิโอ ตอนเริ่มคัมแบ็คอัลบั้ม5 ว่าเหลืออีกแค่ 2 ปีจะหมดสัญญากับ SM แล้ว กว่าจะจบ world tour ทุกอย่างก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว

    เวลาที่เหลือแค่ 2 ปี ไม่คุ้มค่าต่อการโปรโมทมากมาย ฐานแฟนคลับมีแล้ว เอสเจอยู่ได้ ตอนนี้มันขายได้แล้ว เหลือระยะเวลาสั้นแค่นี้ ดันวงอื่นๆขึ้นมาย่อมดีกว่า

    SM ไม่ได้เหลือเวลาอีก 2 ปีเหมือนเอสเจ ธุรกิจยังอยู่อีกยาว เขาต้องหาศิลปินที่มาสร้างรายได้หลักอยู่แล้ว ใครก็ได้ที่ยังขายได้

    แต่ว่า…สำหรับเอลฟ์แล้ว เราไม่เคยรู้สึกว่า พวกเรามีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมกับ SM

    เห็นพยายามอธิบายกันว่ามันเป็นธุรกิจ ให้มองเป็นธุรกิจ
    เข้าใจเรื่องธุรกิจเหมือนกัน แต่ไม่เข้าใจเรื่องที่เค้ามองศิลปินเป็นแค่สินค้าชิ้นนึง
    คนนะไม่ใช่ผงซักฟอก ศิลปินเค้าเป็นคนมีความคิดมีจิตใจ ไม่ใช่อะไรที่ต้องทำทิ้งๆขว้างๆ

    เอสเอ็มเป็นค่ายเพลง สิ่งที่ทำเงินคือศิลปิน แต่ละปีศิลปินทำเงินให้เท่าไหร่ รู้แต่วิธีใช้ให้หาเงิน แต่ไม่รู้จักวิธีรักษา HR เคยศึกษากันบ้างรึป่าว ค่ายยักษ์ใหญ่เงินหนาแต่ว่าโปรโมทศิลปินได้แค่วงเดียว

    ช่วงขาขึ้นต้องเร่งโปรโมท อยากจะถามจริงๆว่า ขาขึ้นนี่คือยังไง ถ้าหมายถึงออกอัลบั้มแล้วขายได้เยอะ เอสเจขายอัลบั้มไม่ได้หรือไง ถ้าหมายถึงมีคอนเสิร์ต ** SS 1-SS3 และกำลังจัด SS4 มันไม่เรียกว่าคอนเสิร์ตใช่มั๊ย ถึงไม่ใช่ขาขึ้นจนต้องโปรโมท ส่วนความคิดที่ว่าเพราะดังแล้วไม่ต้องโปรโมทก็ได้ อยากรู้ว่ามีนักการตลาดคนไหนให้ทฤษฏีนี้ไว้บ้าง

    บริษัทที่ทำธุรกิจ โดยที่มองคนในองค์กรเป็นแค่สินค้าชิ้นนึงเมื่อหมดประโยชน์ก็ทิ้งขว้างแบบนี้ คำว่าครอบครัวไม่มีแน่นอน

    ส่วนใครจะพอใจที่ศิลปินตัวเองเป็นสินค้าชิ้นนึงก็ไม่ว่ากัน แต่สำหรับเราเอสเจไม่ใช่สินค้า เอสเจเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง ดังนั้นสิ่งที่เอสเจได้รับจากค่ายต่อให้อธิบายว่ามันเป็นธุรกิจ เเต่ก็รับไม่ได้อยู่ดี

    1. ทุกคนรอให้คุณอธิบายอย่างที่คุณบอกไป พร้อมแสดงหลักฐานค่ะ เพราะทุกคนไม่ได้ติดตาม SJ หรือ TVXQ! จริงจังหรอกค่ะ ฉะนั้นโปรดแสดงหลักฐานยืนยันในสิ่งที่คุณกล่าวมาด้วยนะคะ (เราไม่ได้ประชดนะคะ)

      1. 1.@KUKKIK_YJHH: สำหรับคนที่ไม่รู้นะ MV – Before U Go ของ TVXQ โฮมินเป็นคนจ่ายค่าทำเอ็มวีนะค่ะ ไม่ใช่ค่ายเป็นคนลงทุนให้ …
        อันนี้เป็นที่รู้กันว่าเอ็มวีบางตัวของTVXQนั้นทางค่ายไม่ได้ลงทุนให้รวมถึงBefore U Goด้วย ตามที่สือเกาหลีออกมาหลายงาน
        2.เราเปรียบเทียบราคาของอัลบบั้มจากเฟสบุ๊คของSM TRUE ที่ทางทรูออกมาเปิดเผยเอง ไปดูได้คะ
        3.เรารับฟังมากจากเอลฟ์เปรูที่เขาออกมาเรียกร้อง เเละอาจจะทำการประท้วงต่อไปด้วย
        4.บอกไปเเล้วคะว่าให้ดู a walk to remember ถ้าให้พูดเกี่ยวกับเอสเจเเละดงบังเราคงพูดไม่หมดหรอคะ เราตามเริ่มติดตามพวกเขามาหลายปีให้บรรยายให้คุณฟังคงไม่จบง่ายๆหรอคะ

        เราคิดว่าหลายอย่างเราได้ชี้เเจงลงไปในความเห็นเเล้วนะคะ บ้างของเราไม่ได้ขัดเเย้งเเต่บ้างข้อทนไมได้จริงๆอย่างข้อ7เป็นต้น

      2. หลักฐานที่สามารถอ้างอิง และทำให้คนเชื่อถือได้ ไม่ใช่ประโยคลอยๆ จากที่ไหนสักที่ นะคะ กรุณาโพสเว็บข่าว หรือข่าวจากบุคคลที่น่าเชื่อถือค่ะ

        ส่วนข้อ 7 เราได้ทำการเพิ่มข้อความแล้วนะคะ กรุณากลับไปอ่านอีกครั้งหนึ่ง
        ขอบคุณค่ะ.

      3. [TRANS] 110315 สาเหตุที่ JYJ ไม่มีทางเลือกนอกจากดำเนินการฟ้องร้อง

        ความจริงแล้วการพิจารณาคดีวันที่ 15 มีนาคม ควรจะเป็นครั้งสุดท้าย แต่ในการพิจารณาคดีครั้งนี้ SM เรียกร้องให้ผู้บริหารจาก SM Japan ขึ้นเป็นพยานอีกคน ดังนั้น จึงจะต้องมีการพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 19 เมษายน เวลา 14:00 ความจริงแล้ว SM ควรจะร้องขอพยานล่วงหน้า

        บทความด้านล่างคือบันทึกเกี่ยวกับการพิจารณาคดีในวันที่ 15 มีนาคม

        = สาเหตุที่ JYJ ไม่มีทางเลือกนอกจากดำเนินการฟ้องร้อง =

        การพิจารณาคดีวันที่ 15 มีนาคม ระหว่าง JYJ และ SM Entertainment

        1. เหตุผลที่แท้จริงที่รายได้ของสมาชิก(ทงบังชินกิ)ต่ำมากก็เพราะ ทุกอย่างถูกพิจารณาให้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทางธุรกิจ มีการเผยในชั้นศาลวันนี้ว่า สิ่งที่ SM ตีเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทางธุรกิจนั้น มีตั้งแต่สิ่งที่ไร้สาระอย่างสิ้นเชิง เช่น ค่าอาหารว่าง, ค่าใช้จ่ายประจำวันของผู้บริหารและพนักงานของ SM, ค่าจอดรถ, ค่ายาแก้หวัด, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง (ตั๋วเครื่องบิน, รถยนต์ ฯลฯ), ค่าเช่า, ค่าเอเจนท์คอนเสิร์ต, ภาษีต่างๆ รวมถึง ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เห็นได้ชัดว่า SM ควรจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งทุกวันนี้ ยังไม่มีการรับผิดชอบใดๆทั้งสิน

        2. ในปี 2008 SM อ้างว่า จากรายได้จำนวน 1.47 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 397 ล้านบาท) มีเพียง 1 พันล้านวอน(ประมาณ 27 ล้านบาท)เท่านั้น ที่มาจาก TVXQ ส่วนที่เหลือนั้นมาจาก CSJH, โบอา, The Trax และ โก อารา อย่างไรก็ตาม คนที่รู้ถึงความโด่งดังของ TVXQ และอิทธิพลต่อการขายในญี่ปุ่นและต่างประเทศของพวกเขา ต่างก็รู้ว่าการกล่าวอ้างนี้ไม่มีมูลความจริงขนาดไหน (ผู้พิพากษาถามว่า โก อารา ทำรายได้ให้กับบริษัทมากกว่า TVXQ จริงหรือ ซึ่งฝ่ายของ SM ก็ไม่สามารถโต้ตอบได้) เมื่อถึงจุดนี้ หลายๆคนในชั้นศาลถึงกับหัวเราะออกมาเสียด้วยซ้ำ

        3. ในปี 2008 SM ทำการถ่ายโอนรายได้ยอดขาย 10% จากการดาว์นโหลด(ไปให้ TVXQ) แต่ในปี 2009 บริษัทไม่ได้ทำเช่นนั้นเลยเสียด้วยซ้ำ

        4. รายได้ทั้งหมดจาก World Tour คือ 3.4 พันล้านวอน (ประมาณ 92 ล้านบาท) แต่ SM หักเงินจำนวน 900 ล้านวอน (24.3 ล้านบาท) จากส่วนที่ควรจะเป็นของ TVXQ โดยอ้างว่าเป็นค่าเอเจ้นท์

        5. เงินที่มอบให้เป็นเงินจ่ายล่วงหน้าถูกหักเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ถ้าเพียงแต่ SM ทำบัญชีของพวกเขาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว พวกเขาก็คงไม่ต้องจ่ายค่าภาษีเหล่านี้ไปล่วงหน้า

        6. สมาชิก TVXQ ถูกบังคับให้จ่ายค่าเอเจ้นท์สำหรับคอนเสิร์ตในต่างประเทศ ค่ามิวสิควีดีโอ หรือแม้กระทั่ง ค่าใช้จ่ายในการออกแบบท่าเต้น

        7. ถึงแม้(จะสมมุติว่า)ยอดขายของ Mirotic คือ 480,000 แผ่น แต่ SM ก็ควรจะต้องจ่ายเงินให้สมาชิกจำนวน 50 ล้านวอน (ประมาณ 1.35 ล้านบาท) แต่พวกเขาก็ไม่ได้จ่าย โดยให้เหตุผลว่า อัลบั้มต่อไปยังไม่ออกมา (ความจริงคือ 540000แผ่น)

        8. ในปี 2004 สมาชิก TVXQ ควรจะได้รับรายได้จากอัลบั้ม Hug เป็นระยะเวลา 3-4 เดือน แต่บัญชีที่บันทึกไว้เผยว่าพวกเขาไม่ได้รับอะไรเลยจากยอดขายอัลบั้ม

        ท้ายที่สุด สมาชิก TVXQ ก็ต้องรับภาระเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด

        ถ้าเช่นนั้น SM ยืนกรานว่าลงทุนไปกับอะไรกันแน่? (ผู้เขียนกำลังสื่อว่า เรื่องที่ SM อธิบายเหตุผลเกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องการเงินในสัญญาของ TVXQ เพราะจำเป็นจะต้องคืนทุนนั้น เป็นการโกหกคำโต การลงทุนส่วนใหญ่นั้นมาจากสมาชิก TVXQ ทั้งหมด โดยที่จริงๆแล้ว สมาชิกถูกบังคับให้ลงทุนกับบริษัทที่ควรจะลงทุนไปกับพวกเขามากกว่า)

        นี่มันเป็นการคำนวณ(รายได้)แบบไหนกัน?

        ยิ่งพวกเขาทำงานมากเท่าไหร่ พวกเขาก็เสียเงินเยอะเท่านั้น…มีคนที่คิดว่าเรื่องแบบนี้มีเหตุผลได้ยังไงกัน?

        ถ้าหาก SM มั่วนิ่มในศาลมากขนาดนี้ ก็น่าสงสัยว่าพวกเขาจะมั่วนิ่ม/ขี้โกงมากกว่านี้ขนาดไหนในชีวิตจริง

        ข้อมูลที่ถูกเผยในการไต่สวนทั้งหมดเป็นผลมาจากการที่ SM แต่งเรื่องและบิดเบือนความจริงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่ถึงกระนั้น มันก็เป็นเรื่องน่าตกใจ น่าสงสัยว่าแบบฉบับที่ไร้การเซ็นเซอร์จะน่าช็อคขนาดไหน

        และตอนนี้ เพราะคำกล่าวอ้าง/การเล่นตลกของ SM คำตัดสินที่ควรจะประกาศในวันนี้ก็ถูกเลื่อนออกไปอีกครั้งเป็นการพิจารณาคดีครั้งที่สี่

        แต่ทุกคน โปรดตระหนักถึงความจริงกันด้วย

        Original Source: Naver blog
        Source (shared by): Seo Yoonah-pierrot, @followyas and @babyblue
        Translation by: Jimmie of TheJYJFiles

        ถามอะไรต่อก็ไปทวิตเอานะคะ เพราะน้องเขาเข้ามาดูเเล้วทวิตบอกว่าคุณมีข้อถาม ความจริงเราคิดว่ามันจะจบตั้งนานเเล้วนะ ถ้าคุณเป็นเเฟนคลับวงที่คุณรักจริงๆคุณมาหาเรื่องให้ศิลปินคุณเเบบนี้หรอคะ ที่เราออกมาไม่ใช่ว่าอะไรมีคนทวิตมาอยากให้เเก้ให้หน่อย เพราะเห็นหลายๆเม้นท์ในบล็อกนี้ออกมาต่อว่าเอลฟ์ซะเหลือเกิน

        ส่วนเรื่องที่KTYHMYJSY (@Poyzzt)บอกนะคะ
        มันเป็นเรื่องของmarketingล้วนๆ
        การเอากำไรจากการลงทุนในครั้งที่เเล้วมาต่อยอดให้ได้กำไรมากกว่าเดิม
        มันคือสัจธรรมของการลงทุนsmก็เอาเงินของศิลปินรุ่นนี้ไปลงทุนต่อเป็นทอดๆไป

    2. แต่ว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่พวกเราไงค่ะ ฝั่งที่มันมองคนเป็นสินค้าคือบริษัท
      เลยเกิดปัญหา

    3. อยากเห็นหลักฐานเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าทางพวกคุณจะพูดเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆใน SM บ่อยๆ จึงอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง และมีบางคนถึงกับบอกว่า โซชิใช้เงินที่ เอสเจหรือดงบังหามา มันอาจทำให้โซชิโดนเข้าใจผิดได้ค่ะ

    4. ไหนล่ะคะ หลักฐาน เราก็ยังเห็นว่ามันเป็นแค่คำพูดลอยๆอยู่เลย ที่บอกว่าตามที่สื่อเกาหลีหลายงานบอกมา คุณก็แปะหลักฐานของสื่อที่ว่านั่นมาด้วยสิคะ ^^

  38. “มันก็แค่คำแก้ตัวของคน ๆ หนึ่งที่ต้องการเอาตัวรอด”

    “เอาตรง ๆ บทความนี้คงถูกใจโซวอนหลายคนล่ะสิ่ หึ”

    “ต่างฝ่ายก็ต่างอยากให้ฝ่ายตัวเองถูกนั่นแหละ !”

    ……………

    แฟนคลับ SJ เห็นว่า SM ทำไม่ถูกเรื่องต่างๆที่ทำกับ SJ
    คุณก็ทำเรื่องไปถึง SM สิ
    มาเขียนอะไรพาดพิงถึง SNSD ทำไม?
    พอทางเราโต้กลับ ก็มาอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่พอใจ
    ถามหน่อยว่าแล้วมาพาดพิงถึง SNSD ก่อนทำไม
    หรือพวกคุณพาดพิงได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็นหรือไง
    พวกคุณเป็นฝ่ายคิดถูกต้องฝ่ายเดียวหรือไง
    แปลกมาก .. เราเห็นมาบ่อยมาก
    สิ่งที่แฟนคลับ SJ ทำ จะได้รับการโต้ตอบอีกแบบ ในขณะที่โซวอนทำในแบบเดียวกัน กลับถูกต่อต้าน และมองว่าเป็นการกระทำที่ผิด ทั้งที่พวกคุณก็ทำ

    แค่เรื่องนี้ .. ไม่ต้องไปมองตรงไหนเลย พวกคุณพาดพิงฝ่ายเราก่อนแท้ๆ
    ไม่ไหวนะ การกระทำแบบนี้
    ทำอย่างกับพวกเราเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องขึ้นมาก่อนอย่างนั้น งงมาก

    1. มากดไลค์คะ เห็นด้วยทุกประการ พอด่าคืน/ให้เหตุผลก็ไม่ฟังหาว่าแถ/กิริยาต่ำ ทั้งที่เด็กบางคนทำยิ่งกว่าทั้งสิ้้น =”=

    2. นั่นน่ะสิ เขาถูกอยู่ฝ่ายเดียว สงสัยเขาใหญ่โต ^^

      1. เรามันสามัญชนค่ะ

        อย่าไปหือกับชนชั้นอำมาตย์ เดี๋ยวจะโดนสั่งเก็บซะเปล่าๆ

  39. เราไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันนะ
    ว่าทำไม(บางคน)ถึงรู้มากมายว่าสิ่่งที่กำลังคิดถูกต้องเสมอ
    ทำยังกับว่าคุณอยู่บริษัทนั้นหรือเป็นเป็นศิลปินเอง
    แล้วเวลาอ่านบทความคุณควรใช้ความคิดมากกว่าอารมณ์
    ด้วยเพราะทุกคนต่างมีความคิดไม่เหมือนกัน และคนที่ยิ่งมีอติ
    อยู่แล้ว มาอ่านมันก็คงไม่ได้ผล

  40. ขอติหน่อยนะครับ เท่าที่ทราบมา MV Before U Go ของทงบังชินกิ เงินที่ใช้ในการสร้างเอ็มวีเป็นเงินของโฮมินเอง ไม่ใช่ของเอสเอ็ม และเอ็มวีส่วนใหญ่จะใช้เงินของทงบังเองหมด

    1. อืมงั้นเราจะพูดอย่างนั้นบ้างก็ได้นะคะ เพราะภายในครึ่งปียุนอาทำรายได้ 3000 ล้านบาทค่ะ ^^

      1. ขอโทษนะครับ คือที่ผมพูดนี่ ไม่ได้ต้องการจะสื่อว่าทงบังมีเงินถึงกับทำเอ็มวีเองหรืออะไร ผมก็ไม่ทราบว่าคุณเข้าใจข้อความของผมไปในทางไหน เพียงแต่ผมต้องการบอกว่า ที่บทความข้างบนเขียนว่า “และล่าสุดมิวสิควิดีโอที่ SM ทุ่มทุนสร้างที่สุด ก็ไม่ใช่ของโซนยอชิแด แต่น่าจะเป็นของทงบังชินกิ” ผมแค่ต้องการจะติว่าควรจะใช้คำว่า “ทงบิงชินกิทุ่มทุนสร้าง” ต่างหากครับ

      2. ถึงคุณแอม แสดงหลักฐานที่แสดงว่าทงบังชินกิออกเงินในการถ่ายมิวสิควิดีโอตัวนี้จริงหน่อยนะคะ

  41. ถ้าเข้ามาอ่านแล้วยังทำความเข้าใจกันไม่ได้ เราก็เพลียนะคะ-__-“

  42. เราเป็นคนนึงที่ติดตามศิลปินหลายๆ วงมาสักพักนึงแล้ว
    เรากำลังสงสัยว่าแฟนคลับของศิลปินเดี๋ยวนี้จำเป็นต้องประเมิณค่าทุกอย่าง
    ออกมาเป็นตัวเงินด้วยหรือ ?
    จำเป็นจะต้องเปรียบเทียบกับวงอื่นๆ กลุ่มอื่นๆ ด้วยหรือ ?
    จำเป็นจะต้องรัก ชอบ ให้ความสนใจ วงที่ตัวเองเป็นแฟนคลับวงเดียวหรือ ?
    จำเป็นต้องเกลียดวง และแฟนคลับของวงบางวงด้วยหรือ ?
    มันเกิดจากอะไร ? การปลูกฝัง ? การบอกต่อ ? ค่านิยม ? ความคิดส่วนตัว ?
    ( เท่าที่ตามอ่านมาหลายๆ สิ่งบ่งชี้ว่า เป็นแค่คนบางกลุ่มเท่านั้นที่มีอาการนี้ )

    อยากฝากให้คิดนะครับว่า เมื่อวันนึงเราได้ใช้ชีวิต ผ่านชีวิตมากขึ้น
    เราจะคิดได้เองว่าสิ่งที่เราเคยคิดไม่ดี เคยทำไม่ดี นั้นมันแย่แค่ไหน
    ไม่มีศาสนาใดในโลกสอนให้คนเกลียดกันนะครับ

    *** คุณเคยคิดกันมั้ยว่า ***

    เราซื้อ ซีดี ที่ไม่เคยเปิดฟังกันทำไม ?
    เราซื้อหนังสือที่ไม่เคยเปิดดูกันทำไม ?
    เราซื้อเสื้อ ซื้อรองเท้า ซื้อหมวก ที่ไม่เคยได้ใช้มาทำไม ?
    เราซื้อของราคาแพงหลักหมื่นมาทำไม ทั้งที่มันเคยขายแค่ไม่กี่ร้อย ?
    เราซื้อมันเพราะเรามีความสุขที่ได้มีสิ่งเหล่านั้นมิใช่หรือ ?
    แล้วตอนนี้ล่ะมีความสุขหรือที่ต้องคอยจับผิด คอยถกเถียงกับคนอื่น ?
    ลองคิดกันให้ดีก่อนนะครับ ว่าเรารักศิลปินเพราะอะไร เพื่ออะไร ?
    แล้วเราจะเกลียดชัง จิกกัด พาดพิงวงอื่นเพื่ออะไร ?

    ( งงชิบเป๋งไม่มีเหตุผลอะไรเลย บางคำก็มั่ว ก็แค่อยากระบาย )

    ( จุดนี้ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องค่ายเพราะไม่รู้เรื่องอะไรแค่ติดตามผลงานศิลปิน )

    *** ฝากไว้สุดท้ายนี้ ***

    กาลามสูตร

    กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

    1.อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
    2.อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
    3.อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
    4.อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
    5.อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
    6.อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
    7.อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
    8.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
    9.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
    10.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

    ทิวาสวัสดิ์

    ( ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ เพราะไม่มีอะไรที่จะถูกใจทุกคนได้ )

  43. ครึกครื้นมากบล็อกนี้
    โตๆกันแล้ว (หรือบางคนยังไม่โต?)
    เถียงกันไปเถียงกันมามันก็ไม่มีหลักฐานทั้งสองฝ่ายแหละค่ะ
    จะเถียงให้ได้อะไรขึ้นมา เสียเวลา ไร้สาระนะคะ
    เอลฟ์ไปนั่งเสิร์ชนั่งปั่นวิวกันดีกว่า
    โซวอนก็ไปโปรโมตเดอะบอยให้คนรู้จักกันทั่วๆ พี่สาวจะได้ดังๆ

    ไม่ ถถถ ไม่พาดพิง ไม่แขวะ ไม่ดราม่า ไม่หาเท้าให้ตัวเองกิน ไม่มีสาระ
    แต่มีความเป็นคน

  44. ดงบังชินกิ (TVXQ!) เปิดตัวเอ็มวี ‘Before U Go’ เวอร์ชั่นเต็มความยาว 16 นาที

    http://acmekpop.wordpress.com/2011/03/21/%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B4-tvxq-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%A1-2/

    ในข่าวไม่ได้บอกว่า SM ลงทุนให้ และไม่ได้บอกว่า โฮมินออกทุน

  45. MV “Before U Go” ใช้เงินส่วนตัวนี่เอาข่าวมาจากไหนกันอ่ะ
    หรือเอามาจากหลักฐานประกอบคดีความระหว่าง SM กับ JYJ
    ถ้าอย่างนั้น ก็แปลว่าก่อนหน้านี้ใช้งบส่วนตัวก็คงจะเป็นจริง
    แต่มาสรุปเองว่า Before U Go ดงบังก็ออกเงินเอง มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ
    ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่สรุปไปด้วยเลยล่ะว่า ทุกวงต้องออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เองทั้งหมด
    ค่ายมีให้แค่สตูดิโอ ถ้าไม่อยากจ่ายก็ต้องถ่ายกันที่นี่
    แบบนี้เราก็สรุปเองได้เหมือนกันสิ ว่า SJ ไม่ยอมจ่ายค่าโปรโมทงานเพลงตัวเอง
    ทำไมถึงคิดว่าค่ายที่พวกคุณบอกว่าหน้าเลือดจะยกเว้นโซชิเอาไว้
    เรื่องโหมงานหนัก ไม่มีเวลาพัก เชื่อเถอะค่ะ ว่าเป็นกันทุกวง คงไม่ต้องยกมาพูดกันอีก
    เรื่องโปรโมท ถ้าบอกว่าศิลปินจ่ายเอง งั้นเราก็คิดว่าโซชิต้องจ่ายเองเหมือนกันค่ะ
    ไม่มีเหตุผลอะไรที่สาวๆจะเป็นข้อยกเว้น ยิ่งหารายได้ได้เยอะ ทั้งจากยอดขาย
    ทำไมบริษัทยังจะไม่ให้คนที่มีรายได้เยอะแล้วจ่ายล่ะคะ

    จะด่า SM กัน ก็ต้องออกมาด่าก็ต่อเมื่อมีโซชิให้เปรียบเทียบ
    มันคงด่าได้เต็มปากเต็มคำมากกว่าเวลาปกติ อันนี้เข้าใจ
    แต่การที่พาลด่าไปถึงตัวสาวๆเนี่ย หลายๆคำที่พ่นกันออกมา รุนแรงไปนะ
    บางที คนนึงด่ามั่วๆ อีกคนก็เอามาพูดต่อ บอกต่อๆกันจนกลายเป็นคิดไปเองว่ามันคือความจริง

    เรื่องรางวัล GDA ถ้ามีหลักฐานการคิดคะแนน ช่วยเอามาให้เราดูด้วยสิ
    อันนี้อยากรู้จริงๆ เพราะถ้าให้เราคิดเอง เราคิดไม่ออกอ่ะค่ะ
    ตอนนี้เราคิดว่า รางวัลนี้ เขายกให้ค่าย SM ไปจัดเอาเหรอ ว่าศิลปินคนไหนในค่ายจะได้ไป
    ทำไม SJ ไม่ได้ แล้วถึงเป็น โซชิ ได้ ศิลปินค่ายอื่นๆ ไม่มีมาแทรกเลย หรือยังไงคะ

    เรื่องแพคเกจ…การออกแบบคงแล้วแต่คอนเซ็ปมากกว่า
    ส่วนเรื่องราคา เห็นว่าของ SJ แพงกว่า อันนี้เข้าใจอารมณ์ค่ะ
    แพง หนัก ถ้าสั่งจากเกาหลีก็เสียค่าส่งอีก แพงไหนกันใหญ่
    แต่จะว่า SM ผิด ก็ยังไงๆอยู่ ราคาของพวกนี้ มันไม่ใช่สินค้าที่จะมากำหนดราคาตายตัวซะด้วย
    แต่ถามว่าน่าเคืองมั้ย เป็นเรา เราก็เคือง

    สิ่งหนึ่งที่เราไม่ได้คิดไปเองคือโซวอนฮาร์ดคอร์ที่ใช้ถ้อยคำตอบโต้แรงๆ จนถูกเรียกว่าโซเวรนี่มีอยู่จริงๆ

    เอลฟ์และแคสที่ดีก็มีอยู่จริงๆ
    (ดีในความหมายเราคือรักและสนับสนุนศิลปินที่ตัวเองรัก โดยไม่ไปเหยียบย่ำคนอื่น)

    และทั้งหมดที่เราเขียนมามันไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรอก มันเป็นแค่ความเห็นของคนคนนึง

  46. ถ้าทุกคนใช้ใจที่เป็นกลางอ่าน ก็น่าจะเข้าใจนะ 🙂

  47. ดูเหมือนทุกคนไม่เข้าใจสิ่งที่ผมสื่อ คือผมไม่ได้ว่าโซชิครับ เพียงแต่ในบทความที่เขียนว่า “และล่าสุดมิวสิควิดีโอที่ SM ทุ่มทุนสร้างที่สุด ก็ไม่ใช่ของโซนยอชิแด แต่น่าจะเป็นของทงบังชินกิ” มันไม่ใช่เอสเอ็มทุ่มทุนสร้างครับ แต่เท่าที่ผมทราบมา เป็นตัวทงบังเองต่างหากที่ทุ่มทุนกับเอ็มวี แล้วที่ในบทความวันเปิดตัวเอ็มวี ไม่ได้เขียนว่าทงบังเป็นคนออกเงิน นั้นอาจจะเป็นเพราะนี่ไม่ใช่แค่เอ็มวีแรกที่ทงบังออกเงินเอ็มก็ได้ แต่เพราะเอ็มวีส่วนใหย่ทงบังก็ใช้เงินส่วนตัว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเขียนข่าวลงไป ในเมื่อมันไม่ใช่สิ่งที่พิเศษ แต่เป็นสิ่งที่ทงบังทำมาตลอดอยู่แล้วก้เป็นได้ครับ

    1. “แต่เท่าที่ผมทราบมา” แต่คุณไม่แสดงหลักฐาน ก็ไม่มีใครเชื่อนะคะ

  48. เราจะอธิบายตามหลักการตลาดง่ายๆ ตามหลักของนิเทศน์ศาสตร์ตามที่ได้ร่ำเรียนมาแล้วกันค่ะ เห็นถกเถียงกันมากมาย น้อยใจในความไม่ยุติธรรมต่างๆ
    อาจจะยาวสักหน่อย แต่ก็น่าจะทำให้เข้าใจกันได้บ้าง

    SM = พ่อค้า, ศิลปิน = สินค้า, ผู้บริโภค/เหยื่อ = แฟนคลับ, อัลบั้ม = ของแถม

    การค้ามันต้องขายของถูกไหมคะ การขายของแต่ละอย่างก็ต้องมีผู้บริโภค
    สินค้าเมื่อขายไปแล้วเขาก็จะดูการตอบรับว่าผู้บริโภคมากน้อยเพียงไหน
    ผลประโยชน์ที่ได้ต่างกันอย่างไร และพ่อค้ามักจะต้องการกำไรที่มากอยู่แล้ว
    หลักการง่ายๆ คือ ลงทุนน้อย แต่ กำไรมาก

    เห็นถกเถียงเรื่อง SM ไม่เป็นธรรมกับ SJ
    ค่ะเราก็เข้าใจในจุดนี้ ถ้าให้พิจจารณาตามหลักง่ายๆ ของพ่อค้าคือ

    ศิลปิน ช. ส่วนใหญ่จะมีผู้บริโภคส่วนมากเป็นผู้หญิง จุดขายก็คือ
    หน้าตาบุคลิกดึงดูดใจ การแต่งกาย อะไรก็แล้วแต่ที่ผู้บริโภคชื่นชอบ
    และกลายเป็นเหยื่อของพ่อค้า

    ศิลปิน ญ จะได้ผู้บริโภคทั้งชายและหญิงจำนวนที่มาก
    จุดขายของ ญ จะมีมากกว่า ช อยู่แล้ว ที่โดดเด่นคือเป็นด้านสรีระร่างกาย
    ซึ่ง ช ไม่มีเหมือน และมักจะดึงดูดสายตาของผู้บริโภคให้มาเป็นเหยื่อ

    ถ้าพ่อค้าลงทุนกับ ช ก็จะได้เพียงแค่ฐานผู้บริโภค ญ มากกว่าเป็นส่วนใหญ่
    สังเกตได้จากเวลาไปต่างประเทศหรือขึ้นคอนเสิร์ต
    จะมีแต่แฟนคลับ ญ ทั้งนั้น ช จะน้อยกว่า

    ถ้าพ่อค้าลงทุนกับ ญ ก็จะได้ผู้บริโภคที่มากกว่าคือทั้ง ช และ ญ
    สังเกตได้จากเวลาไปต่างประเทศหรือขึ้นคอนเสิร์ต
    จะมีทั้งแฟนคลับ ช ญ ในจำนวนที่ไม่แตกต่างกันมาก

    มันก็เปรียบเหมือนฉลากบรรจุภัณฑ์ของสินค้าแหละค่ะ
    ถ้าบรรจุภัณฑ์มันดูดี เป็นที่ต้องตาต้องใจ
    มันก็จะดึงดูดเหยื่อให้เข้ามาบริโภคสินค้า

    ดังนั้นเป็นธรรมดาที่พ่อค้าจะต้องลงทุนกับสินค้าที่มีจุดขายมากกว่า
    ที่ทำรายได้ให้พ่อค้ามากกว่าอยู่แล้ว จะบอกว่า SJ ดังไหม
    ดังค่ะเรายอมรับเพราะเราก็ชอบ SJ เหมือนกัน
    SNSD ดังไหม ก็ดังค่ะ มันอยู่ที่ผู้บริโภคมากกว่า
    ที่เขาจะเลือกบริโภคสินค้าแบบไหน สินค้าไหนน่าสนใจกว่ากัน

    ข้อดีข้อเสียของสินค้ามันก็มี แต่อยู่ที่ว่าผู้บริโภคจะรับมันได้หรือไม่ก็แค่นั้น
    ก็เหมือนกับก่อนที่เราจะซื้อสินค้า เราต้องศึกษาข้อมูลของมันถูกไหมคะ
    และก็เป็นธรรมดาที่จะมาถกเถียงกันเรื่องสินค้าที่มาจากพ่อค้าคนเดียวกัน
    แต่คุณภาพไม่เหมือนกัน มันก็อยู่ที่พ่อค้าอีกแหละค่ะว่าจะขาย
    และนำเสนอแบบไหน สินค้าไหนที่มันเป็นความต้องการของลูกค้ามากกว่า

    SJ โด่งดังในเอเชียและยุโรป แต่ทำรายได้ในเอเชียได้มากกว่า
    ผู้บริโภคเยอะกว่า พ่อค้าเลยเน้นส่งขายในเอเชียทำกำไรให้เขา
    กอบโกยรายได้ในเอเชียไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นละคร หรือพรีเซ็นเตอร์สินค้า
    รวมถึงคอนเสิร์ตต่างๆ ที่มีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด และจะเน้นลงทุนที่
    ประเทศจีน ซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลก และประเทศไทย
    ซึ่งมีฐานแฟนคลับจำนวนมากที่เป็นเหยื่อทำให้พ่อค้ากอบโกยกำไรได้มากมาย

    SNSD จะเห็นว่ามีผู้บริโภคในยุโรปด้วยพอสมควรจากการไปแสดงคอนเสิร์ต
    และยุโรปเป็นประเทศที่แข่งขันสูง ดังนั้่นพ่อค้าจึงต้องผลิตของแถม
    ให้ตรงตามความต้องการของยุโรป และแข่งขันกับคู่แข่งอื่นๆ
    เพื่อจะทำรายได้ให้มากที่สุด รวมถึงการแต่งกายต่างๆ ที่ต้องออกแนวยุโรป
    เพื่อแข่งขันและให้ดึงดูดความสนใจมากกว่าคู่แข่งในแถบนั้นเช่นกัน

    พ่อค้าต้องศึกษาก่อนอยู่แล้วว่าก่อนจะนำสินค้าออกไปขายภายนอกนั้น
    มันมีความเปลี่ยนแปลงมากเท่าไรอะไรยังไง ผู้บริโภคเป็นอย่างไร
    ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเขาถึงลงทุนกับ ญ มากกว่า..

    แต่เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่านำสินค้าไปเสี่ยงที่ยุโรปแล้ว มันจะขายได้หรือไม่
    เพราะการทำธุรกิจหากต้องการให้ธุรกิจประสบความสำเร็จไปทั่วโลก
    เขาก็ต้องกล้าที่จะเสี่ยงกับอะไรที่ท้าทายอยู่แล้ว ถ้าไม่สำเร็จก็คือจบ
    ไม่มีใครเสียเปรียบไปมากกว่าใครหรอกค่ะ

  49. (ต่อ)

    และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับพ่อค้าคือของแถม นั่นก็เปรียบกับ อัลบั้ม
    ของแถมอ่ะค่ะ ต่อให้ไม่ดีแต่ถ้ามันแถมมากับสินค้าที่ชอบ
    แพงแค่ไหนผู้บริโภคก็ซื้อมันอยู่ดีเพราะเป็นเหยื่อไปแล้ว
    ต่อให้จะด่าจะว่าพ่อค้าที่ทำของแถมมาห่วยยังไง แต่ถ้าเราชอบสินค้านี้
    เราก็ซื้อมันอยู่ดีแหละค่ะ

    มันเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของพ่อค้าน่ะค่ะ ตามหลักการของ S.W.O.T
    ซึ่งเราทุกคนก็นำไปใช้ได้เหมือนกัน หากจำทำธุรกิจหรืออะไรก็ตาม
    ถ้าไม่เข้าใจเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ >> *http://www.thaitrainingzone.com/HrdNewsDetail.asp?id=19
    หรือ http://www.sarut-homesite.net/swot-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7/

    ผู้บริโภคก็คือเหยื่อของพ่อค้า ถูกพ่อค้าหลอกแต่ก็ยอมให้หลอกเอาเงิน
    ในเมื่อเราเป็นเหยื่อของสินค้าแล้ว เราก็ทำอะไรพ่อค้าไม่ได้ค่ะ
    พ่อค้าเขาไม่แคร์หรอกค่ะในเมื่อผู้บริโภคไม่พอใจจำนวนหนึ่งกับสินค้า
    ในเมื่อสินค้าอื่นๆ ของเขาก็ขายได้เหมือนกัน เช่น
    TVXQ! Shinee F(x) CSGH SNSD

    ทุกอย่างมันเป็นธุรกิจการบันเทิง ถ้าคุณทำธุรกิจด้านนี้คุณจะเข้าใจ
    ไม่มีใครอยากขาดทุนกับธุรกิจของตัวเองหรอกค่ะ
    พ่อค้าต้องเอาใจผู้บริโภคที่มีจำนวนมากกว่าอยู่แล้ว
    ผู้บริโภคที่คัดค้านจำนวนหนึ่งเขาไม่สนใจหรอก

    ตามหลักความจริงในการทำธุรกิจบันเทิง มีคนรักก็มีคนเกลียด
    และพอคนเกลียดสินค้ามากๆ ก็เหมือนเป็่นแรงผลักให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น
    ทำให้คนภายนอกเกิดความสนใจและตกมาเป็นเหยื่ออีก

    พ่อค้ามีอำนาจสูงสุด เพราะสินค้าเป็นของเขา เขาจะทำอะไรกับสินค้าก็ได้
    เมื่อผู้บริโภคสนใจสินค้า เขาก็จะตอบแทนผู้บริโภคด้วยโปรโมชั่นมากมาย
    เปรียบได้กับการจัด Event หรือ คอนเสิร์ตต่างๆ เป็นต้น
    หากคุณเรียกร้องอะไรกับเขามากทั้งที่เขาก็ให้ผู้บริโภคมากแล้ว
    เขาก็อาจตอบแทนคุณโดยไม่ให้อะไรคุณเลยก็ได้ ยกตัวอย่าง

    เช่น พ่อค้าส่งสินค้า SJ มาให้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาในไทย ให้มาไทยบ่อยๆ
    มาจัดคอนเสิร์ตทุกครั้ง ให้สิทธิมากมายกับผู้บริโภคสินค้าของเขา
    โดยผ่านทางผู้ร่วมหุ้นคือ SMTrue แต่อย่าลืมว่า มันก็ถอนหุ้นได้เหมือนกัน
    แต่หากคุณเรียกร้องความไม่เป็นธรรมกับเขาแล้ว
    ทั้งที่เขาให้คุณมากมายขนาดนี้ เขาจะตอบแทนคุณกลับ
    โดยการไม่จัดอะไรในไทยให้คุณเลยก็ได้

    เราเป็นผู้บริโภคก็ควรพอใจกับสิ่งที่เขาให้ ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร
    เราควรสนับสนุนสินค้าและบริโภคสินค้าของเราอย่างมีสติ
    อย่าให้พ่อค้าล้างสมองเราไปมากกว่านี้ค่ะ
    แค่เราเป็นเหยื่อมันก็แทบจะกินแกลบกันแล้ว

    ฝากข้อคิดให้เอาไปลองนอนคิดเล่นๆ กันดู
    จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แค่เห็นมันเชื่อมโยงกับประเด็นที่โต้เถียงกัน

    ความยุติธรรม, มันเป็นแค่ฝัน, บนโลกแห่งความจริง, มันไม่มี
    เรียกร้องมาก, ระวังเถอะ, ผู้บริโภคจะไม่เหลืออะไร
    คุณเกลียดเขา, แต่คนที่ทุกข์, คือตัวคุณไม่ใช่เขา

    ถ้าไม่เข้าใจ โปรดกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นใหม่ ขอบคุณค่ะ

    1. พูดอีกก็ถูกอีก Like!

      ***วิชานี้ได้ A มาสินะคะ ฮ่าาา

  50. (ต่อ)
    และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับพ่อค้าคือของแถม นั่นก็เปรียบกับ อัลบั้ม
    ของแถมอ่ะค่ะ ต่อให้ไม่ดีแต่ถ้ามันแถมมากับสินค้าที่ชอบ
    แพงแค่ไหนผู้บริโภคก็ซื้อมันอยู่ดีเพราะเป็นเหยื่อไปแล้ว
    ต่อให้จะด่าจะว่าพ่อค้าที่ทำของแถมมาห่วยยังไง แต่ถ้าเราชอบสินค้านี้
    เราก็ซื้อมันอยู่ดีแหละค่ะ

    มันเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของพ่อค้าน่ะค่ะ ตามหลักการของ S.W.O.T
    ซึ่งเราทุกคนก็นำไปใช้ได้เหมือนกัน หากจำทำธุรกิจหรืออะไรก็ตาม
    ถ้าไม่เข้าใจเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ >> *http://www.thaitrainingzone.com/HrdNewsDetail.asp?id=19

    ผู้บริโภคก็คือเหยื่อของพ่อค้า ถูกพ่อค้าหลอกแต่ก็ยอมให้หลอกเอาเงิน
    ในเมื่อเราเป็นเหยื่อของสินค้าแล้ว เราก็ทำอะไรพ่อค้าไม่ได้ค่ะ
    พ่อค้าเขาไม่แคร์หรอกค่ะในเมื่อผู้บริโภคไม่พอใจจำนวนหนึ่งกับสินค้า
    ในเมื่อสินค้าอื่นๆ ของเขาก็ขายได้เหมือนกัน เช่น
    TVXQ! Shinee F(x) CSGH SNSD

    ทุกอย่างมันเป็นธุรกิจการบันเทิง ถ้าคุณทำธุรกิจด้านนี้คุณจะเข้าใจ
    ไม่มีใครอยากขาดทุนกับธุรกิจของตัวเองหรอกค่ะ
    พ่อค้าต้องเอาใจผู้บริโภคที่มีจำนวนมากกว่าอยู่แล้ว
    ผู้บริโภคที่คัดค้านจำนวนหนึ่งเขาไม่สนใจหรอก

    ตามหลักความจริงในการทำธุรกิจบันเทิง มีคนรักก็มีคนเกลียด
    และพอคนเกลียดสินค้ามากๆ ก็เหมือนเป็่นแรงผลักให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น
    ทำให้คนภายนอกเกิดความสนใจและตกมาเป็นเหยื่ออีก

    พ่อค้ามีอำนาจสูงสุด เพราะสินค้าเป็นของเขา เขาจะทำอะไรกับสินค้าก็ได้
    เมื่อผู้บริโภคสนใจสินค้า เขาก็จะตอบแทนผู้บริโภคด้วยโปรโมชั่นมากมาย
    เปรียบได้กับการจัด Event หรือ คอนเสิร์ตต่างๆ เป็นต้น
    หากคุณเรียกร้องอะไรกับเขามากทั้งที่เขาก็ให้ผู้บริโภคมากแล้ว
    เขาก็อาจตอบแทนคุณโดยไม่ให้อะไรคุณเลยก็ได้ ยกตัวอย่าง

    เช่น พ่อค้าส่งสินค้า SJ มาให้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาในไทย ให้มาไทยบ่อยๆ
    มาจัดคอนเสิร์ตทุกครั้ง ให้สิทธิมากมายกับผู้บริโภคสินค้าของเขา
    โดยผ่านทางผู้ร่วมหุ้นคือ SMTrue แต่อย่าลืมว่า มันก็ถอนหุ้นได้เหมือนกัน
    แต่หากคุณเรียกร้องความไม่เป็นธรรมกับเขาแล้ว
    ทั้งที่เขาให้คุณมากมายขนาดนี้ เขาจะตอบแทนคุณกลับ
    โดยการไม่จัดอะไรในไทยให้คุณเลยก็ได้

    เราเป็นผู้บริโภคก็ควรพอใจกับสิ่งที่เขาให้ ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร
    เราควรสนับสนุนสินค้าและบริโภคสินค้าของเราอย่างมีสติ
    อย่าให้พ่อค้าล้างสมองเราไปมากกว่านี้ค่ะ
    แค่เราเป็นเหยื่อมันก็แทบจะกินแกลบกันแล้ว

    ฝากข้อคิดให้เอาไปลองนอนคิดเล่นๆ กันดู
    จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แค่เห็นมันเชื่อมโยงกับประเด็นที่โต้เถียงกัน

    ความยุติธรรม, มันเป็นแค่ฝัน, บนโลกแห่งความจริง, มันไม่มี
    เรียกร้องมาก, ระวังเถอะ, ผู้บริโภคจะไม่เหลืออะไร
    คุณเกลียดเขา, แต่คนที่ทุกข์, คือตัวคุณไม่ใช่เขา

    ถ้าไม่เข้าใจ โปรดกลับไปอ่านตั้งแต่ต้นใหม่ ขอบคุณค่ะ

    1. เข้าใจตามนี้จ๊ะ

      ถ้าไม่มีพ่อค้า เราก็จะไม่มีสินค้า,ผลิตภัณฑ์ มาให้ผู้บริโภคอย่างเราได้เสพย์กันนะจ๊ะ บางครั้งเราอาจจะไม่พอใจไม่ชอบพ่อค้าได้ แต่ถ้าเราคิดจะซื้อเราก็ต้องทำใจ ว่าสินค้าชนิดนั้นมันออกมาจากพ่อค้าคนนี้เท่านั้น !!!

      อย่าเที่ยวว่าพ่อค้าไปเลย เพราะถ้าไม่มีพ่อค้า มันก็ไม่มีสินค้าออกมาให้เราได้ซื้อกันหรอก ถ้าเราไม่พอใจสินค้า เราก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องสนใจก็จบ

      เพราะสุดท้าย ไม่ว่ายังไงก็ตาม แม้ว่าคุณจะอยากด่าพ่อค้ามากมายแค่ไหน
      คุณก็ยังจะต้องซื้อสินค้าชนิดนั้น จากพ่อค้าคนนี้อยู่ดี

      Ps` ขอใช้ศัพท์และความหมายในมุมมองของลูกค้าบ้านๆๆธรรมดาๆๆ ที่คิดแบบนี้ละกันเนอะ ง่ายดี ((:

  51. ขอนอกเรื่องนิดนึง . . อย่าดึงเอาเรื่อง GDA เข้ามาได้มั้ยค่ะ?
    เพราะมันคนละเรื่องกับเนื้อความข้างบนเลย ให้มันเป็นเรื่องๆไปเถอะ – –
    แล้วอีกอย่างอีเรื่อง GDA พูดจนเอสเจ โซชิ เลิกเป็นนักร้องก็ไม่จบหรอก
    เพราะเอลฟ์ SM มึงเลวมากโกงรางวัลพี่ชายกู
    โซวอนก็พี่สาวกูก็มีประสิทธิภาพพอนะโว้ย
    อย่าเถียงว่าไม่จริง 😀 ดังนั้นอย่าเอามันมารวมกันเลย แค่นี้ก็ปวดประสาทพอแล้ว

    ส่วนเนื้อความข้างบน อ่านแล้วก็ใช้สติกันทั้ง 2 ฝ่าย
    ในฐานะโซวอน ให้พวกเราได้ออกมาแสดงความเห็นบ้างก็เท่านั้น
    และสุดท้ายจงพอใจในสิ่งที่ตนมี 🙂

    1. เห็นด้วย เรื่องจีดีเอแม่งน่าเบื่อ!!
      ขนาดเราเป็นเอลฟ์น่ะ-*-
      พูดไปทะเลาะไปก็ทำร้ายจิตใจตัวเอง
      มาสู้กันตรงๆปีนี้ไปเลยยังดีกว่า
      จะได้แฟร์ๆ!!

  52. ถ้าอ่านบทความนี้แล้วไม่เข้าใจหรือยังใจแคบเอาทิฐิส่วนตัว มาบดบังใจในการอ่าน อ่านไปก็ไม่มีวันเข้าใจหรอกค่ะ เพราะคุณยังไม่เปิดใจเลย จนปัญญาแล้วจริงๆ ณ จุดนี้ถ้าพวกคุณยังไม่เข้าใจ เพลีย ==” …รอต่อภาคสองค่ะ^^

  53. ทำไมต้องเอามาเทียบกัน?
    เราเข้าใจน่ะว่าโซวอนก็เจ็บหรืออะไรต่างๆ…
    แต่ทำเป็นของตัวเองเลยดีกว่ามั้ย?

    *แล้วก็น่ะคิดว่าอัลบัมใหญ่ๆมันดีเรอะ?-*-
    ค่าน้ำหนักก็เสียเยอะ เก็บอะไรก็ไม่สะดวก

    1. หากคุณอ่านบทความนี้ละเอียดจะพบว่า คนที่นำสองวงนี้มาเทียบกันไม่ใช่โซวอน แต่เป็นเอลฟ์เกาหลีนะคะ

      ส่วนเรื่องอัลบั้ม ที่เขียนแสดงไปเพื่อให้เห้นว่ามีขนาดต่างจากปกติ ซึ่งอาจเป็นผลให้มีราคาสูงค่ะ

      1. โอเคเข้าใจค่ะ!
        ที่พวกคุณทำเพราะต้องการให้เอลฟ์
        เข้าใจว่าโซชิก็ไม่ได้ดีไปกว่าเอสเจใช่มั้ย?
        ดังนั้นคุณควรที่จะทำทรานอังกฤษไปซะแล้วส่งไปให้เอลฟ์เกา
        เค้าจะได้รุ้
        เพราะทำเป็นไทยไป
        เอลฟ์เกาไม่มีวันรับรุ้หรอกน่ะค่ะ

  54. ขอโทษนะค่ะ
    จะพูดอะไรก็หาข้อมูลมาให้ดีกว่านี้ได้มั้ย
    เอ็มวีBefore U Go ไม่ใช่เงินของSMEntนะ
    เป็นเงินของยุนโฮกับชางมิน

    ถ้าจะเถียงอะไรกันก็อย่างของทงบังไปเกี่ยวนะค่ะ^^

    1. ขออนุญาตค่ะ คือ..ข้อมูลนี้ทราบจากแหล่งข่าวไหนเหรอคะ
      พอจะทราบข้อมูลของวงอื่นๆบ้างมั้ยคะ รบกวนสอบถามค่ะ

  55. โอเคครับ อันที่จริง ถ้าถามถึงหลักฐาน ผมคงไปหาหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษณ์ที่ชัดเจนจริงๆไม้ได้ เพียงแต่ ผมได้มีโอกาสอ่านแฟนแอคเค้าท์เกี่ยวกับการพิจารณาคดี เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาคดีครับ
    “Q: It is said that the members would not need to be accountable for any expenses in relation to album production. What are the categories that this particular expense falls under?

    A: Filming of jacket, printing expenses, recording expenses, songs fees (T/N: payment for copyright of songs), filming of MV, dance chorography are all… inclusive..

    —– Q: However, (looking through expense report) MV production fees, showcase fees, and even international calls fees are all being accounted for by the members… why?—–

    A: it is not everything, but there were probably parts of the expenses that were being used for broadcasts. From what I know, those kinds of expenses are being categorized as PR expenses. [T/N: Refer back to Yoon’s answer in the previous question. He HIMSELF stated that expenses for MV production were inclusive in SM’s coverage for album production. He is contradicting himself here.] ”

    cr.http://withjyj.wordpress.com

    ผมไม่มั่นใจว่านี่จะเรียกว่าหลักฐานได้หรือเปล่านะครับ เพียงแต่ผมเอาสิ่งนี้มาข้ออ้างอิงถึงสิ่งที่ผมพูด ผมใช้คำว่า “เท่าที่ผมทราบมา” เพราะมันก็เป็นสิ่งที่ผมทราบมานั้นแหละครับ มันอาจจะเป็นความจริงหรือไม่ผมก็ไม่ทราบ เพราะผมไม่ได้ไปนั่งฟังการพิจารณาคดีกับพวกเขา และอีกอย่าง ถ้าคุณลองกลับไปอ่านข้อความทั้งหมดที่ผมเขียนมา ผมใช้คำว่า “ควร” และผม “ขอติ” แสดงนี่เป็นเพียงความคิดของผม ส่วนจะเชื่อกันหรือมัน มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล ผมห้ามไม่ได้

    และสุดท้าย ที่ผมเข้ามาในนี้นั้น เป็นเพราะน้องสาวผมครับ เธอเป็นโซวอน แล้วให้ผมลองอ่านเว็บนี้ดู ผมไม่ใช่แอนตี้แฟน แต่ก็ไม่ได้เป็นโซวอนครับ และพอผมอ่านข้อความทั้งหมด ก็มาสะดุดตรง MV BUG นี่หละครับ ผมไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากประโยค SM ทุ่มทุนสร้างเลยครับ มันเป็นเพียงคอมเม้นที่ 54 ของผมแท้ๆที่ทำให้บางคนเข้าใจผิด หรือมันอาจจะเป็นเพราะผมพูดคลุมเครือก็ได้ แล้วผมก็ไม่ได้พูดว่าเอสเอ็มนั้นลำเอียงหรือไม่ เพราะผมก็ไม่ทราบว่า GG SJ SHINee F(x) และทุกวงในเอสเอ็มจะมีสัญญาแบบเดียวกันมั้ย หรือต้องจ่ายค่าเอ็มวีเหมือนกันหรือเปล่า

    เพราะฉะนั้นโปรดเข้าใจในเจตนาของผมด้วยครับ!!

    1. ขออนุญาตเจ้าของบล็อคนะคะ

      เราเข้าใจเจตนาคุณนะ แต่ขอแย้งนิดนึงได้ไหมคะ
      ที่ยกมาเป็นแฟนแอค ซึ่งคุณก็บอกเอง ว่าจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ
      จะเชื่อกันหรือไม่ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งคิดว่าคุณเชื่อไปแล้วจึงได้ออกมาแย้งจุดนี้

      เราไม่ได้ไม่เชื่อนะคะว่าโฮมินจ่ายเงินเอง แต่เราขอสอบถามนิดหน่อยค่ะ
      คำให้การที่ยกมา เกิดขึ้นก่อนหรือหลังการถ่ายทำ MV BUG คะ
      เป็นไปได้มั้ยคะ ที่ SM จะเรียกโฮมินเข้าไปคุยเรื่องข้อตกลงกันใหม่
      เราเห็นว่ามันเป็นการคาดเดาเอาเองจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดนะคะ
      เพราะก่อนนั้นอาจจะต้องจ่ายเองจริงๆค่ะ

      น่าสงสารศิลปินเหมือนกันนะ ถ้าโดนแบบนี้กัน
      มันไม่มีความเป็นธรรมต่อตัวศิลปินเลย
      เข้าใจว่าเอลฟ์หลายคนเรียกร้องให้ SM มีข้อตกลงและดูแลศิลปินที่ดีกว่านี้
      แต่สิ่งที่เราเจอตามเว็บบอร์ดและทวิตเตอร์ที่ติดแท็ก SMunfair ตอนนี้
      ก็เป็นเอลฟ์หลายๆคนอีกนั่นแหละค่ะ ที่เรียกร้องให้ SM มีข้อตกลงและดูแลศิลปินที่ดีกว่าหรือเท่าเทียมกับโซชิ
      นั่นคือ..สิ่งที่พวกเขาต้องการงั้นหรือ? แทนที่จะชวนโซวอนรวมกลุ่มประท้วง SM
      แต่ดันกันเราออกมาเป็นตัวเปรียบเทียบซะอย่างงั้น
      ทำไมเ อลฟ์ แคส โซวอน ถึงไม่รวมกลุ่มกันไปประท้วง ให้ SM ออกมาชี้แจงไปเลย
      เราว่ามันน่าจะออกมาดีกว่านี้อ่ะ
      เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าสาวๆต้องจ่ายเงินค่า MV ค่าโปรโมทต่างๆเองเหมือนกันหรือเปล่า

      1. สำหรับการพิจารณาคดีของคำการไต่สวนพยานครั้งนี้ เป็นวันที่ 15 มี.ค. 54 ครับ ส่วนการถ่ายทำเอ็มวี BUG แบ่งเป็นสองครั้ง คือปลายเดือนธันวาปี 53และกลางเดือนมกรา ปี 54 ที่ คังนัม กรุงโซล และ ซงโด, อิลซาน อินชอน ทั้งหมด 5 วัน ดังนั้น ถ่ายเอ็มวีก่อนครับ
        cr. PINGBOOK ENTERTAINMENT – http://www.pingbook.com – หากนำข่าวไปใช้กรุณาให้เครดิตเว็บไซต์ด้วย

        ผมเองก็รู้สึกว่าเอสเอ็มค่อนข้างเทคแคร์โซชิอยู่เหมือนกัน แต่ก็อย่างที่หลายคนพูดว่ามันคือการตลาดหล่ะครับ แล้วผมก็เห็นด้วยกับคุณ ถ้าแฟนคลับของทุกศิลปินในเอสเอ็มออกมารวมตัวกัน ให้เอสเอ็มออกมาชี้แจงไปเลยคงจะดีกว่า แต่เอสเอ็มไม่ค่อยแคร์แฟนคลับศิลปินเท่าไหร่หรอก เพราะถึงแฟนคลับจะเกลียดพวกเขายังไง ก็ต้องซับพอร์ตศิลปินอยู่ดี
        และบางทีการเทรนด์ #SMUnfair อาจเป็นเพราะอยากจะระบายสิ่งที่เอสเอ็มทำเกินไปกับศิลปินก็ได้ ขอแค่ได้ทำในสิ่งที่แสดงให้รู้ว่าความเกลียดที่มีต่อค่ายนรกนี้ มันมีมากแค่ไหน

  56. เราเข้าใจนะ เราชอบทั้ง sj และ snsd ไม่อยากให้เอลฟ์กะโซวอนทะเลาะกันอ่ะ แค่ให้พวกพี่ๆได้มีผลงานออกมาให้เราดูกันก็ดีละ เราก็ติดตามให้กำลังใจเค้ากัน เอลฟ์กะโซวอนจะอยู่ด้วยกันไม่ได้เลยหรออ

  57. สำหรับคนที่บอกว่า พี่ชายคุณก้อแอนตี้เยอะ อย่าเอาแต่พูดว่าพี่สาว แอนตี้เยอะ

    เราขอถามอะไรหน่อย แอนตี้ส่วนใหญ่ ของพี่ชายคุณเป็นโซวอนหรอ ทำไมถึงได้จงเกลียดจงชังเราจัง ตอนที่พี่ชายคุณ เดบิว มีกลุ่มแฟนคลับ และมีแอนตี้แล้ว
    โซวอนยังไม่เกิดเลย แต่ตอนนี้ แอนตี้โซชิ ส่วนใหญ่ เป็นแฟนคลับกลุ่มไหนหละ

    เพราะพวกคุณ อคติมาก่อน ก้อเลย หาว่าเราแถบ้าง แก้ตัวบ้าง
    เราว่าคุณมาเสพดนตรีเหอะ อย่าไปคาดหวังอะไรให้มาก จะได้ไม่ต้องผิดหวัง

    ใช่ คุณอาจจะบอกว่า ตอนนี้ เรายังไม่โดน ถ้าโดนแบบคุณบ้างเราจะรู้สึก
    เราบอกคุณไว้เลยว่า เราไม่รุ็ว่าโซวอนคนอื่นคิดแบบรึป่าว แต่เราคนนึง

    ไม่เคยคาดหวัง ว่าจะต้องชนะ เราขอแค่ให้ ออกอัลบั้ม ออกรายการให้เราเห็นหน้า
    มาจัดคอนที่ไทยบ้าง เราต้องการแค่นี้ จิงๆ

    1. แอนตี้ส่วนใหญ่ไม่ใช่โซวอนหรอกค่ะ:)
      แต่ที่ส่วนมากเกลียดโซวอนก็เพราะโซวอนเนี้ยแหละค่ะ
      (เข้าใจมั้ย?ความหมายของเรา)

      1. ซึ่งโซวอนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เกลียดเอสเจ
        แต่ส่วนมากจะเกลียดเอลฟ์ติ่งหูแย่ๆ ที่อยู่ดีๆก็ชอบหาเรื่องมาให้ตลอด แล้วก็แถไปเรื่อย ทำให้เอลฟ์ดีๆพลอยเน่าไปด้วย
        เข้าใจมั้ย??? ความหมายเรา..

  58. จิงๆเราชอบทั้งสองวงนะ แต่จากที่เราติดตามทั้งสองวงมาเนี่ย เราคิดว่าเอลฟ์อ่ะ ชอบหวงพี่ชายกันเกินไป บางครั้งแค่พี่สาวกะพี่ชายร่วมงานกัน ยังหวงอ่ะ ไม่คิดกันบ้างหรอว่าพี่ชายเค้าอาจจะมีความสุขที่ได้ทำงานกะพี่ๆน้องๆร่วมค่าย เวลาเราเข้ากลุ่มของพี่ชายที่ไรอ่ะ จะต้องมีคนในกลุ่มว่าพวกพี่สาวทุกทีเลย ยิ่งช่วงที่พี่สาวออกอัลบั้มเนี่ย กระหน่ำเลย เรารักทั้งพี่สาวพี่ชายนะ แต่เรามีความสุขเวลาที่เหนพี่เค้าทำงานด้วยกัน ออกคอนด้วยกัน ออกรายการด้วยกัน ทำไมเราต้องเกิดเรื่องให้แตกแยกกันอย่างนี้ก็ไม่รุ้

  59. ถึงคุณแอม คห.72

    เราตอบในเม้นนั้นไม่ได้อ่ะ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน -*-
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ รู้สึกเป็นห่วงสาวๆยังไงไม่รู้สิ
    เราไม่ได้ตามวงอื่นอย่างจริงจังเท่าไหร่นัก เลยไม่รู้ว่าการเทคแคร์ศิลปินต่างกันยังไงน่ะค่ะ

    ขอบคุณสำหรับการแลกเปลี่ยนความเห็นค่ะ

    1. ขอบคุณสำหรับการแลกเปลี่ยนความเห็นเช่นกันครับ

  60. ไม่ชอบ ก็ไม่ต้องดู แค่นี้แหละ ง่ายๆ เอาเวลามานั่งจับผิดคนอื่น พาลจะทำให้ตัวเองเป็นโรคจิตป่าวๆ -/-

  61. เท่ากันไม่เท่ากัน ศิลปินก็ไม่ได้เป็นคนจัดการนิ คิดว่าลำเอียงหรือไม่ดีก็ไปด่า SM ดิ มานั่งโง่ด่ากันอยู่ทำไม (คหสต.และว่าแค่คนบางส่วนนะ)

  62. แต่ยังเอลฟ์ ยังเยอะกว่าโซวอนอยู่ดีนี่……-*-
    แถมทั้งสองวงเป็นพี่น้องที่สนิทกัน
    อย่ามาเป็นศัตรูเลยดีกว่า

    เอาเวลาที่เถียงกันมาซัพพอร์ตศิลปินที่ตัวเองรักดีกว่าเหอะ รักทั้ง 2 วง

  63. ศลป ยังรักกันดี

    แต่แฟนคลับ เดือดร้อนแทน

  64. จริง ๆ ๆถ้าให้พูดนะ “ศิลปิน….เป็นสินค้าของ sm อย่างนึง”

    ไม่ว่าจะวงไหนก็ตาม ถ้าให้พูดสาเหตุที่ ทำไม? suju ไม่โปรโมตที่ญี่ปุ่นซักที

    ทั้งที่รุ่นน้องก็ เดบิวไปหลายวง เพราะก่อนหน้านั้น มันมีวง รุ่นพี่ที่ทาง sm ดันไว้

    อยู่แล้ว ตามที่รู้กัน ถ้าจะเอา suju ไปตีตลาดอีก มันจะเป็นการยืดแย่งพื้นที่ทาง

    การตลาด เพราะฉะนั้น suju จึงได้ไป จีน แทน เพราะตลาดนี้ยังไม่มีคนบุกเบิก

    และแน่นอน เพราะ suju มีสมาิชิกที่เป็นชาวจีน นั้นจึงทำโปรเจ็กต์ได้ง่ายกว่าวงอื่น

    แล้วมันก็ประสบผลที่ดี ที่รู้จักกันในนาม sj-m เห็นด้วยกับหลายความคิดที่ว่า

    ตัวศิลปินเอง อยากไม่ได้มีปัญหาระหว่างกัน แต่เป็นที่ตัว “บริษัท” ต่างหาก

    ที่เป็นคนกั้นความต่างออกมาให้เห็น เค้าสั่งให้ใส่อะไรก็ใส่ สั่งให้ทำอะไรก็ทำ

    เพราะถ้าไม่ทำ พวกเค้าจะไม่ได้ทำอาชีพที่เค้าเลืิอกได้อีก

    และแน่นอนเพราะ “สัญญาทาส” นั้นทำให้พวกเค้าเลือกอะไรไม่ได้มากนัก

    อืมมมมม เราค่อนข้างแอบน้อยใจแทน suju เหมือนกัน และไ่ม่เห็นด้วยกับคำพูด

    ที่อ้างถึง ฮีชอล คนตรงฉิง คิดอะไรก่อนพูด และ เป็นตัวของตัวเอง แบบนี้

    ไม่มีทางที่จะพูดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาแน่นอน มันเป็นไปไม่ได้ !!!

    แล้วถ้าให้พูดถึง ระหว่าง snsd กับ super junior !!!

    จริงๆ เราเป็นแฟนคลับ suju นะ แต่จะบอกว่า

    “วงที่กำลังขายได้(อีกนานเพราะยังเด็ก) กับอีกวงที่เตรียมตัวเข้ากรมทหาร”

    มันคงพอที่ sm จะใช้เป็นตัวตัดสิน ว่าอะไรสมควรมาก่อนกัน

    นี่คงเป็นอีกสาเหตุนึง((E.L.Fอย่าเศร้ากันนะ)) ที่ sm เลือกที่จะปฏิบัตแบบนี้

  65. สงสัยเรื่องความแตกต่างของโปรดักชั่นเหรอคะ?
    คลับสาวๆ ลองมาดูออฟฟิเชียลเอมวีเพลงนี้ของหนุ่มๆ ไหมคะ ^^

    1. แฟนคลับหนุ่มๆอย่าลืมดู MV นี้ด้วยนะครับว่าต่างกันยังไง
      หรือถ้าไม่เห็นด้วยก็เมนชั่นมาสอบถามได้นะครับ
      อย่าลืมแคปเม้นนี้ไว้ด้วย

  66. มันคือเรื่องที่มาจากความชอบส่วนตัว? ไตร่ตรองมาอย่างดีก็แล้วแต่?
    ไม้ว่ายังไงศิลปินที่ดูจะมีประโยชน์ต่อทางบริษัทมากกว่าก็มักจะได้เปรียบในด้านต่างๆ แตเมื่อเทียบกับศิลปินแบบSJที่เดบิวต์มานานแล้ว และดูเหมือนSMคงคาดหวังไม่มากก็น้อยที่จะหวังให้SJจบลงถึงแม้้ว่าจะเป็นรายได้ของSMแต่ก็จะฉุดรายได้ของโซนยออยู่ดี แต่ไม่ว่ายังไงพวกเราก็รักSJโอปป้าของพวกเรา
    ไม่ว่าพวกพี่จะโกหกรึเปล่า สิ่งที่เราเชื่อก็คือสิ่งที่เราเชื่อ(‘:

    1. คุณเหมือนพวกถูกล้างสมองเลย
      ทำไมเราถึงมองว่า SJ ประสบความสำเร็จมาก คุณทำไมมองแต่ด้านตัวเองในทัศนคติแคบๆ

      เหมือนลัทธิอะไรซักอย่าง ถามจริงมีใครไปฝังความคิดแปลกๆไว้ในหัวรึเปล่า แยกตัวจากคนพวกนั้นซะนะ..
      ระวัง..กระบวกการคิดแบบไม่มี logic แบบนี้ ถ้าเผลอเรียนระดับมหาลัยขึ้นไปสูงๆ ในมหาลัยดีๆ เวลาทำข้อสอบแบบใช้ตรรกะ อ.เค้าจะว่าเอา ยิ่งยุคนี้มันยุคแข่งขัน อีก 3 ปีประเทศก็จะเปิด AEC แล้ว มัวนั่งงมงายกับคำพูดของคนไม่ดีที่มาเป่าหู วันๆก็คิดแต่เรื่องไร้สารพวกนี้ ….พอเถอะ

  67. SM เห็นศิลปินเป็นอาหารจบปะ
    ไม่มีใครเด่น ไม่มีใครต่ำไปกว่าใคร วันนี้ SJ ไม่ถูกดัน
    วันข้างหน้า SNSD ก็ต้องเป็นเเบบนี้ เมื่อมีศิลปินมาใหม่ หรือว่าหมดอายุการใช่งานนั้นเอง

    1. มีขึ้นก็ต้องมีลงครับ เป็นศิลปินก็ต้องเตรียมใจไว้อยู่แล้ว
      มีขึ้นต้องมีลง ไม่มีอะไรถาวร
      เหมือนกับหลายๆวงเมื่อก่อน FC ก็คิดแบบนี้ (H.O.T / G.O.D. / S.E.S.)
      เวลาผ่านไปมุมมองทัศนะของแฟนคลับกับศิลปินก็เปลี่ยนไปครับ
      ตอนนี้ศิลปินก็แค่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้ให้เยอะที่สุดก็พอแล้วนี่ครับ
      ศิลปินเดบิวต์ใหม่ทุกเดือน ซักวันมันก็ต้องมีคนขึ้นมาแทนอยู่แล้วครับ (ทำไมไม่รำลึกถึงศิลปินของเราว่าก็ขึ้นแทนวงอื่นเหมือนกันในอดีต)
      อย่าไปมองการณ์ไกลขนาดนั้น ถึงไม่ได้ทำกิจกรรมเป็นนักร้องแล้ว
      แต่ก็ยังต้องดำเนินชีวิตอยู่นะครับ
      ติดตามศิลปินเพื่อให้เรามีความสุข ไม่ใช่ให้เครียดแล้วเอาความเครียดไปลงกับวงอื่นที่ไม่เกี่ยว 🙂

  68. ในความคิดเรา เป็นปัญหาที่ปัญญาอ่อนมากๆ มีทุกปี
    ชอบใครชอบมัน สนับสนุนใครสนับสนุนมันก็จบ !!
    (ใครอยากจะดราม่าก็เชิญ) คหสต!!!

  69. มา GDA ปีนี้ SJ ได้รางวัล สถานการ์ยอดขายเหมือนปีที่แล้วเปี๊ยบ กลับกันแค่วงตัวเองขายได้น้อยกว่า(ตัดรีแพ็คทิ้ง เหมือนที่เอลฟ์โอดครวญปีที่แล้วบอกไม่แฟร์) ทีแบบนี้พวกเอลฟ์ปิดปากกันสนิทเชียวนะ ส่วนฝั่งสาวๆเค้าไม่เห็นว่าอะไร ก็ยินดี วงพี่น้องในลูกหม้อเดียวกัน

    คิดดีๆ ใครกันแน่ที่ไม่แฟร์ รักผู้ชายจนไม่ลืมหูลืมตา ใจแคบเหลือเกิน
    …….คนขี้อิจฉา ยังไงมันก็ขี้อิจฉาอยู่ดี -*-

  70. ขนาดอธิบายขนาดนี้
    หลักฐานขนาดนี้
    ยังมีหลายๆคนที่ไม่เข้าใจ หรือไม่ยอมที่จะเข้าใจไม่รู้
    สุดยอดจริงๆๆๆ !!!

Leave a reply to processic418 Cancel reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.